ถก กมธ.เขื่อนแม่วงก์ยังหลากความเห็น ปราโมทย์-ศศิน เดินหน้าค้าน วีรกร หนุน

วันนี้ (9 ต.ค.) คณะกรรมาธิการการพัฒนาความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร มีการประชุมพิจารณา ความเคลื่อนไหวการคัดค้านสร้างเขื่อนแม่วงก์

โดยนายปราโมทย์ ไม้กลัด รองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุว่า การสร้างเขื่อนแม่วงก์ ไม่สามารถช่วยลดปัญหาอุทกภัยได้ ซึ่งเป้าหมายหลักเพื่อกักเก็บน้ำช่วยเกษตรกรในช่วงหน้าแล้งมากกว่า ดังนั้น หากรัฐบาลจะดำเนินการ ต้องศึกษาอย่างรอบคอบ โดยโครงการขนาดใหญ่ ต้องให้ความสำคัญถึงผลการศึกษา จะมาออกระเบียบสำนักนายกรัฐนายกรัฐมนตรี เพื่อยกเว้นเงื่อนไขไม่ได้ และการที่ ครม. อนุมัติให้สร้างเขื่อนแม่วงก์ ด้วยงบกว่า 13,000 ล้านบาทนั้น น่าจะขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากโครงการนี้ยังไม่ผ่านการสำรวจของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. จึงควรดำเนินการให้ชัดเจนก่อนลงมือก่อสร้าง

ขณะที่ นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ยืนยันไม่ได้คัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ แต่เห็นว่าการศึกษาของรัฐบาลต้องรอบคอบ และต้องสามารถแก้ปัญหาอุทกภัยในระยะยาวได้ ซึ่งหากมีการสร้างเขื่อนจริง เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อป่าทางภาคตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเสืออยู่ เพียงแห่งเดียวในประเทศ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้พรานป่าเข้ามาล่าสัตว์ เพื่อประโยชน์ส่วนตัวมากขึ้น ดังนั้น เมื่อศึกษารายละเอียดของโครงการแล้ว มองว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริง ตามที่ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ กบอ. ชี้แจงก่อนหน้านี้

ด้าน นายวีระกร คำประกอบ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ กล่าวว่า สื่อได้สร้างให้เห็นว่าคนจะเอาเขื่อน กลายเป็นคนเลว ทำลายชาติ ปล้นชาติ แต่ยืนยันว่า เขื่อนแม่วงก์มีความคล้ายกับเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้งานได้จริง เพราะ จ.นครนายก ขณะนี้ น้ำไม่ท่วม ขณะที่ จ.ปราจีนบุรี ไม่มีเขื่อน จึงเกิดน้ำท่วมหนัก

ส่วน จ.นครสวรรค์ การไหลของน้ำมีลักษณะลาดชันสูง แต่ละปีจึงมีน้ำท่วมหลายครั้ง มีความเสียหายกับพืชผลทางการเกษตร สำหรับเรื่องของเสือ ไม่ต้องห่วง ว่าจะไม่มีที่อยู่ เพราะพื้นที่ 11.7 ล้านไร่ เฉลี่ยเสือ 1 ตัวต่อพื้นที่ 100,000 กว่าไร่ จึงไม่มีปัญหาเรื่องที่อยู่ของเสือแต่อย่างใด