สภาเดือด ! หลัง “เศรษฐา” แจงของบฯ เพิ่ม 1.22 แสนล้านบาท | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สภาเดือด ฝ่ายค้านซัดรัฐบาลโหลยโท่ย หลังวันนี้ นายกฯ เข้าชี้แจงต่อรัฐสภาฯ กรณีของบประมาณเพิ่มอีก 1.22 แสนล้านบาท เพื่อนำไปเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ขณะที่พรรคก้าวไกล ชี้ ทำให้ประเทศมีความเสี่ยงทางการคลัง เพียงเพื่อรักษาหน้าตาของรัฐบาล

 

นายกฯ แจงของบฯ เพิ่ม 1.22 แสนล้านบาท 

 

เช้าวันนี้ ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนในประเทศ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผ่านโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยไม่สามารถรองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ได้  รัฐบาลจะดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ ใช้จ่ายเงินภาษีประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

ก้าวไกล ซัดกู้เพิ่มแจกเงินดิจิทัลเสี่ยงผิดกฎหมาย

 

ขณะที่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายว่า วันนี้ที่รัฐบาลจะมาขอกู้เพิ่มอีก 1.22 แสนล้านบาท เพราะที่มาเดียว คือ โครงการเรือธงของรัฐบาลที่จะทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

 

สิ่งที่รัฐบาลทำทุกวันนี้ เหมือนไม่ได้สนใจ ไม่แคร์ที่ประเทศต้องมาอยู่ในภาวะเสี่ยงเช่นนี้ โครงการนี้จะลงทะเบียนอีก 15 วัน แต่ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่มีระบบการชำระเงินที่ชัดเจน รวมถึงเงื่อนไขที่เปลี่ยนไปมา โครงการนี้ยังไม่รู้ว่า จะลงทุนจริง ๆ เท่าไร บอกได้คำเดียวว่า เป็นการลงทุน แค่ได้รักษาหน้าตามที่ได้หาเสียงไว้แล้ว แต่สิ่งที่จะเสียไป คือ เพิ่มความเสี่ยงทางการคลัง ทำผิดกฎหมาย เอื้อค้าปลีกรายใหญ่ กีดกันรายย่อย

 

นางสาว ศิริกัญญา ย้ำว่า เรื่องนี้สุ่มเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย หากทำต่อได้ จะสร้างบรรทัดฐานที่ผิดในการบริหารจัดการงบประมาณในอนาคต และสร้างความเสียหายที่ประเมินไม่ได้ รวมถึงการของบประมาณแบบนี้จะเพิ่มภาระผูกพันไปถึงงบประมาณในอนาคต จึงขอส่งความห่วงใยไปยังพรรคร่วมรัฐบาลว่าท่านจะกลายมาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการทำผิดกฎหมายครั้งนี้ จึงขอให้ช่วยกันคว่ำร่างฉบับนี้

 

จุรินทร์ ซัดรัฐบาลโหลยโท่ยกู้มาแจก

 

ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายซัดรัฐบาลเละว่า สาระสำคัญวันนี้แค่เพื่อขอกู้มาแจก เพื่อเอาไปทำดิจิทัลวอลเล็ต ความล่าช้าของโครงการนี้ไม่ใช่แรงค้านของฝ่ายไหน แต่เพราะความโหลยโท่ยของรัฐบาล ที่บริหารเหมือนเด็กเล่นขายของ เอาแน่อะไรไม่ได้ การกู้มาแจกแค่ 6 เดือน เหมือนโยนหินลงน้ำ 1 ก้อน เกิดแรงกระเพื่อมแค่จ่อมเดียวแล้วหายไป แต่ที่เกิดขึ้นคือพายุหมุนเอาหนี้ก้อนโตมาให้คนไทยชดใช้ไปอีกนาน เข้าทำนอง ประเทศเสียหายไม่ว่า ขอให้ข้าได้หาเสียง

 

รัฐบาลนี้บริหารมาเกือบปี เกือบไม่เหลืออะไรให้ประชาชนหวังได้อีกแล้ว นอกจากน้ำข้าวต้มชื่อ ดิจิทัลวอลเล็ต ชามเดียว แม้ดิจิทัลวอลเล็ตอาจจะเป็นทางรอดของบางพรรค แต่ที่แน่นอนไม่ใช่ทางรอดของประเทศ

 

ศาล รธน. นัดชี้ชะตาคดียุบก้าวไกล 7 ส.ค.

 

วันเดียวกัน ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่า พรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

หลังจากเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ศาลได้ให้ทั้งสองฝ่าย มาตรวจพยานหลักฐานของคู่กรณี ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน หากคู่กรณีประสงค์จะแถลงปิดคดีให้ยื่นหนังสือต่อศาลภายในวันที่ 24 กรกฎาคม 2567

 

ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดแถลงด้วยวาจา และลงมติในวันพุธที่ 7 สิงหาคม 2567 เวลา 09.30 น. และฟังคำวินิจฉัย 15.00 น.

 

โรม ทำใจ สู้ยากคดียุบก้าวไกล

 

ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล บอกว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลมีจุดยืนมาตลอด คือ คิดว่าการเปิดไต่สวนจะนำข้อเท็จจริงต่าง ๆ ทั้งพยานหลักฐาน พยานบุคคล เข้าสู่การพิจารณาของศาล เชื่อว่าจะนำไปสู่การที่จะทำให้คดีนี้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด แต่จากที่เห็นเอกสารข่าววันนี้ ต้องบอกตรง ๆ ว่า การต่อสู้คดีที่ต้องการจะนำพยานหลักฐานเข้าไปสู่กระบวนการการพิจารณาของศาล คงทำไม่ได้ ยอมรับว่าคงทำให้การต่อสู้คดีของเรายากขึ้น อย่างไรก็ตามคงไม่สามารถบอกได้ว่าผลของคำวินิจฉัยของศาลในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ จะเป็นอย่างไร แต่หวังว่าผลตรงนี้จะสร้างความยุติธรรมให้กับพรรคก้าวไกลด้วยเช่นกัน ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่ต้องการล้มล้างการปกครอง ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ต้องการเซาะกร่อนบ่อนทำลายอย่างที่มีการกล่าวหา