ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง โพสต์ขอโทษหลังมีดรามาหนัก ยืนยันไม่มีการซื้อขายตำแหน่งในรัฐสภาเกิดขึ้นจริง
ดรามาซื้อวุฒิ - ตำแหน่งในรัฐสภา ลามไม่หยุด
เป็นประเด็นบานปลายต่อเนื่อง หลังจาก นางสาววิไลลักษณ์ หรือ ซ้อลักษณ์ แจ้งความตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร เอาผิด นางสาวชลิดา หรือ ต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง กรณีหลอกลวงให้ซื้อวุฒิการศึกษา 200,000 บาท ก่อนต่อยอดซื้อตำแหน่ง เป็นคณะทำงานรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ด้วยเงิน 60,000 บาท จนนำไปสู่การเลิกจ้างอาจารย์ 1 ท่าน ของมหาวิทยาลัยพิษณุโลก หลังพบว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการแอบอ้างซื้อขายวุฒิการศึกษานั้น
ต้นอ้อ ขอโอกาสทำงานมูลนิธิช่วยเหลือสังคม
โดยช่วงค่ำที่ผ่านมา ต้นอ้อ โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กบางช่วงว่า ต้องกล่าวคำว่า ขอโทษประชาชนผู้ติดตามทุกท่าน ในส่วนนี้ใครที่คิดว่าอ้อทำผิด ก็สามารถไปดำเนินการตามกฏหมายได้ อ้อพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และหลังจากนี้ ขอโอกาสกลับมาทำหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือสังคม เด็ก สตรี ศาสนาฯ และจะไม่ทำให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก จะปรับปรุงสิ่งที่ผิดพลาด และเดินหน้าแก้ไขจุดที่บกพร่อง พร้อมทิ้งท้ายว่า ขอเดินหน้าทำงานต่อ กราบขอโทษจากหัวใจ
ต้นอ้อ ลั่นพร้อมลาออกจากประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง
นอกจากนี้ ต้นอ้อ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแช็ตซื้อขายตำแหน่งในรัฐสภาว่า เป็นแช็ตเก่าที่พูดคุยกัน เพราะอีกฝ่าย (ซ้อลักษณ์) อยากมีหน้ามีตาในสังคม เนื่องจากอดีตสามีเคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง จึงช่วยไปถามคนรู้จัก ที่มีการบอกว่าต้องซื้อตำแหน่งกัน เลยไปบอกอดีตเพื่อนคนนั้น แต่สุดท้ายไม่มีการซื้อตำแหน่งกันจริง เรื่องไหนที่ผิดก็ขอยอมรับผิด แต่บางอย่างก็มีการบิดเบือน
ตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องงานเป็นหลัก เพราะคดีกลุ่มเชื่อมจิตใกล้เข้ามาแล้ว ส่วนทางมูลนิธิเป็นหนึ่ง จะมีการชี้แจงข้อครหาว่าฟอกเงินในเร็ว ๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีคนมองว่า ไม่เหมาะเป็นประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ตนเองพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ลาออกจากประธาน แต่ขอร้องอย่ามาแตะต้องมูลนิธิ
นายแม่ปุ๊กกี้ สงสัย ต้นอ้อ หาเงินจากไหน
ขณะที่ นายแม่ปุ๊กกี้ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเป็นหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่า ทาง ต้นอ้อ ไม่มีงานประจำทำ และต้องเลี้ยงครอบครัวหลายคน แต่น่าแปลกใจว่า เอาเงินตรงไหนมาทำมูลนิธิ แต่พอตนเองเข้าไปรู้เรื่องราวต่าง ๆ ก็ถอยตัวออกมา เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้อง
สั่งเข้มงวดทำบัตรคณะผู้ติดตาม
จากปัญหาซื้อขายตำแหน่งในรัฐสภานั้น วันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หากยิ่งสาวยิ่งเจอ ก็แสดงว่าเป็นปัญหาใหญ่ ต้องนำมาจัดการให้ถูกต้อง แต่จะพิจารณาจำนวนคณะผู้ติดตามของคณะรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษาต่าง ๆ ให้มีขนาดเท่าความจำเป็นหรือไม่นั้น ส่วนตัวเวลาลงพื้นที่ ได้กำชับว่าให้มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับหน้างานจริง ๆ เพราะเป็นเรื่องสิ้นเปลืองงบประมาณ และอาจจะทำให้สูญเสียโอกาสในการบริหารงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกบัตรผู้ติดตาม จะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ต้องดูก่อนว่าปัญหาเกิดจากอะไร จากนั้นต้องหาทางแก้ การออกบัตรที่เข้มข้น ก็อาจจะเป็นหนึ่งในวิธีนั้น
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
-
ชมผ่าน YouTube