ความสำเร็จอยู่ที่เรา หรืออยู่ที่ใคร ?
ในสังคมอดีตจนถึงปัจจุบัน มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนยังคงยึดติด และต้องการมันตลอดเวลาเพื่อได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง บางคนก็ต้องการเพื่อตนเอง บางคนก็ต้องการสิ่งนี้เพื่อคนอื่น หรือเพื่อที่จะต้องการตามผู้คนในสังคมให้ทันเพราะกลัวว่าจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังผู้เดียว สิ่งนี้จะเปลี่ยนเป้าหมายในทุกช่วงอายุ และตามค่านิยมของสังคม วัฒนธรรม กระแสทุนนิยม สิ่งที่กำลังจะกล่าวถึง ก็คือ “ความสำเร็จ” นิยามของความสำเร็จแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่ก็ยังมีความสำเร็จที่เป็นบรรทัดฐานในสังคมที่ทุกคนอยากจะมีเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นต้องมีบ้าน มีรถ มีครอบครัว จนเกิดคำถามที่ว่า ถ้าเราไม่มีสิ่งเหล่านี้ตามที่คนในสังคมกำหนด เราจะกลายเป็นคนไม่มีเป้าหมายและไร้ค่าหรือไม่
ความสำเร็จ ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ปัจจัยนั้นก็มาจากครอบครัว การศึกษา สภาพแวดล้อมที่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน สื่อที่เสพบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ภาพยนต์ที่ดู หนังสือที่อ่าน ภาพจำความสำเร็จจากคนในครอบครัว ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความคิด ความเชื่อ ค่านิยมความสำเร็จที่แตกต่างกัน แต่ในสังคมปัจจุบัน ทุกอย่างดูเร็วไปหมด จนเกิดค่านิยมสังคมใหม่ ๆ มากมาย ถ้าอยู่ในวัยเรียน ความสำเร็จก็คงอยู่ที่การเรียน เกรดเฉลี่ย การแข่งขันวิชาการ โรงเรียนที่ศึกษา มหาลัยที่สอบเข้าได้ ถ้าอยู่ในวัยทำงาน ก็คงเป็นการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นคำถามว่าทำงานบริษัทใหญ่ไหม ได้ทำตำแหน่งไหน ได้เงินเดือนเท่าไหร่ ทำงานนานขนาดนี้มีบ้านเป็นของตัวเองไหม มีรถเป็นของตัวเองหรือเปล่า จะแต่งงานมีลูกไหม ซึ่งคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่คนในสังคมถามเพื่อวัดความสำเร็จของคนคนนั้น ว่าชีวิตเป็นยังไง และเมื่อคำตอบไม่ตรงใจผู้ถาม หรือไม่ตรงตามมาตรฐานของสังคม ก็จะถูกตัดสินว่า เป็นคนที่ไม่มีความสำเร็จ และเป็นคนที่ดูไม่มีเป้าหมายในชีวิต
กลายเป็นว่ามีหลายคนในสังคม ที่จะพยายามวิ่งตามบรรทัดฐานค่านิยมความสำเร็จของคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นต้องเรียนให้ดี จบมาต้องทำงานบริษัทชื่อดัง มีตำแหน่งที่มีเกียรติมีหน้ามีตา ต้องมีบ้าน มีรถ ทำให้ทุกคนต้องพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะไม่ถูกตราหน้าว่าเป็น “คนไม่ประสบความสำเร็จ” ในสังคม จนบางทีเราก็ลืมตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วตนเองต้องการอะไรในชีวิต อยากจะใช้ชีวิตแบบไหน เหมือนกับว่ากระแสโลกทุนนิยม หรือกระแสสังคม กำลังพัดเราให้เข้าสู่พายุที่ชื่อว่าความสำเร็จลูกนี้ ที่มีทั้งความเหนื่อย ความสับสน ไม่รู้ปลายทางว่าจะสำเร็จเท่าคนอื่นเมื่อใด จะมีชีวิตที่ดีได้ตอนไหน กลายเป็นว่า เรากำลังวิ่งตามความสำเร็จของตัวเองหรือกำลังวิ่งตามความสำเร็จของคนอื่นกันแน่ และแท้จริงเราต้องการอะไร เพื่อที่จะตอบโจทย์ว่าสิ่งนี้คือ “ความสำเร็จ” ในชีวิตของเราเอง
แต่ในปัจจุบันความสำเร็จเหล่านี้ ก็เปลี่ยนไปตามค่านิยมของสังคม เด็กรุ่นใหม่บางกลุ่มก็มองว่าความสำเร็จนี้ไม่จำเป็นกับชีวิตขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องมีรถ ไม่จำเป็นต้องมีบ้าน ไม่จำเป็นต้องทำงานบริษัทใหญ่โต แต่ขอแค่เพียงได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากได้ ก็ถือว่าสิ่งนี้เป็น “ความสำเร็จ” ในชีวิตได้เช่นกัน คนรุ่นเก่าอาจจะมองความสำเร็จที่ปลายทาง แต่คนรุ่นใหม่เลือกที่จะมองความสำเร็จเล็กน้อยระหว่างทางมากกว่าปลายทาง เพราะในสภาพสังคมที่มีการแข่งขันสูงขนาดนี้ มีทั้งความกดดัน ความเครียด และส่งผลต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ดังนั้นแล้ว ความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับการนิยามของแต่ละคน และเราไม่ควรเอาบรรทัดฐานความสำเร็จของตนเอง ไปกำหนดบรรทัดฐานความสำเร็จในชีวิตคนอื่น สิ่งที่ควรกำหนดเป็นบรรทัดฐานในสังคมที่แท้จริง ก็คือ การเคารพเป้าหมาย ความสำเร็จ ของผู้อื่น และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน