เตือนระวัง ! “โรคฉี่หนู” เริ่มระบาดหนัก พบ 4 จังหวัดอีสาน ป่วย 98 คน ดับแล้ว 2 ราย
logo ข่าวอัพเดท

เตือนระวัง ! “โรคฉี่หนู” เริ่มระบาดหนัก พบ 4 จังหวัดอีสาน ป่วย 98 คน ดับแล้ว 2 ราย

ข่าวอัพเดท : โรคฉี่หนู ระบาดรุนแรงใน 4 จังหวัดภาคอีสาน พบผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 2 ราย จากจำนวน 98 ราย ส่วนใหญ่พบในคนอายุ 65 ปีขึ้นไป แพทย์เผยวิธีป้ โรคฉี่หนู,วิธีป้องกันการติดเชื้อ,น้ำท่วมขัง,ภาคอีสาน,วิธีป้องกันโรคฉี่หนู

36,107 ครั้ง
|
06 ก.ย. 2567

โรคฉี่หนู ระบาดรุนแรงใน 4 จังหวัดภาคอีสาน พบผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 2 ราย จากจำนวน 98 ราย ส่วนใหญ่พบในคนอายุ 65 ปีขึ้นไป แพทย์เผยวิธีป้องกันการติดเชื้อ รวมทั้งมีอาการผิดปกติต้องทำยังไง

วันที่ 6 กันยายน 2567 นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ช่วงนี้ประเทศไทยมีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมขัง หากเดินลุยน้ำย่ำโคลนด้วยเท้าเปล่า อาจทำให้เชื้อโรคไข้ฉี่หนูปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายได้ โดยโรคไข้ฉี่หนู มักแพร่ระบาดในช่วงฤดูฝนหรือเกิดพายุมรสุม เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ เช่น หนู หมู วัว ควาย สุนัข แพะ แกะ และปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำ ลำคลอง แอ่งน้ำขังเล็ก ๆ และพื้นดินโคลนที่ชื้นแฉะ

เชื้อนี้มีชีวิตอยู่ได้นานเป็นเดือน สามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้ทางบาดแผลหรือรอยถลอก รอยขีดข่วน หรืออาจชอนไชผ่านผิวหนังที่อ่อนนุ่มจากการแช่น้ำนาน ๆ หรือรับประทานอาหารและดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ ในระยะแรกผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับโรคติดเชื้อทั่วไป แต่สังเกตความแตกต่างได้ คือ หลังติดเชื้อประมาณ 2-10 วัน จะเริ่มมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะบริเวณน่องและโคนขา ร่วมกับมีอาการหนาวสั่น บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง

สำหรับสถานการณ์โรคไข้ฉี่หนูในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 2 กันยายน 2567 พบผู้ป่วยจำนวน 98 ราย เสียชีวิต 2 คน โดยจ.นครราชสีมา มีผู้ป่วย 36 คน เสียชีวิต 1 คน , จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 23 คน , จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 20 คน เสียชีวิต 1 คน และ จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 19 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 55-64 ปีขึ้นไป และ 45-64 ปี ตามลำดับ

แนวทางป้องกันได้ ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเป็นเวลานาน หรือเดินลุยน้ำย่ำโคลนด้วยเท้าเปล่า โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผลหรือรอยขีดข่วนที่เท้าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

2.ล้างมือล้างเท้าด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ

3.รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ อาหารค้างมื้อควรเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด และอุ่นให้เดือดก่อรับประทาน

4.หากทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลดควรสวมถุงมือยางและรองเท้าบูท เก็บขยะ เศษอาหารในถังที่มีฝาปิดมิดชิด หรือทิ้งในถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้แน่น เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนู

5.หากมีไข้สูง ร่วมกับปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่น่อง หลังสัมผัสพื้นที่น้ำขัง/ดินที่มีโอกาสปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ ห้ามซื้อยามารับประทานเอง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติเสี่ยงให้ทราบ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง