รวบ นายช่างโยธา รับสินบน 9 ล้าน แลกแก้แบบถนน
logo ข่าวอัพเดท

รวบ นายช่างโยธา รับสินบน 9 ล้าน แลกแก้แบบถนน

ข่าวอัพเดท : ตำรวจบุกจับนายช่างโยธา รับสินบน 9 ล้านบาท แก้แบบถนนไม่ให้ตัดผ่านสนามกอล์ฟ พบรถหรูภายในบ้าน รวมมูลค่าหลายล้าน ด้าน ผู้ว่า ฯ ชัชชาติ แ นายช่างโยธา,จับนายช่างโยธา,เรียกรับสินบน,รับสินบน

417 ครั้ง
|
21 พ.ค. 2567

ตำรวจบุกจับนายช่างโยธา รับสินบน 9 ล้านบาท แก้แบบถนนไม่ให้ตัดผ่านสนามกอล์ฟ พบรถหรูภายในบ้าน รวมมูลค่าหลายล้าน ด้าน ผู้ว่า ฯ ชัชชาติ แจง มีอีก 6 เคส ย้ำ เราเอาจริง

วันที่ 20 พฤษภาคม เวลา 06.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุด ที่นนทบุรี ปทุมธานี และนครราชสีมา จับกุมขบวนการเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธา กทม. เรียกรับสินบน 9 ล้านบาท แลกกับการช่วยแก้ไขแบบแนวเขตโครงการถนนเลียบวารี ไม่ให้เข้าไปในเขตสนามกอล์ฟวินด์เซอร์ปาร์ค แอนด์ กอล์ฟคลับ

จุดแรกที่สำคัญอยู่ที่บ้านพัก ในหมู่บ้านบนถนนติวานนท์-แจ้งวัฒนะ 2 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นบ้านพักของนายภีมพงษ์ ตำแหน่งนายช่างโยธาชำนาญงาน กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักงานโยธา กทม. และภรรยา ผู้ต้องหาคนสำคัญในขบวนการ โดยพบนายภีมพงษ์ และภรรยา นอนอยู่ในบ้าน เมื่อทำการตรวจค้นภายในบ้าน พบรถยนต์หรูยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ 1 คัน รถยนต์โตโยต้า รุ่นแคมรี่ 1 คัน พร้อมกับรถจักรยานยนต์ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน จำนวน 5 คัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด

จากนั้น ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหา ตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่ห้องทำงาน บนอาคารโยธา กรุงเทพฯ ก่อนจะพาไปค้นหาหลักฐานที่อาคารไอราวัตพัฒนา ซึ่งเป็นห้องเก็บเอกสารและห้องประชุม ต่อมา พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ เผยว่า จากการกระจายกำลังค้นทั้ง 5 จุด จับกุมผู้ต้องหาได้ครบ 4 คน เป็นสมาชิกแก๊ง 1 เปอร์เซ็นต์ โดยมีนายช่างโยธาฯ เป็นหัวหน้าแก๊ง ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าเป็นเพียงนายหน้าขายที่ดิน และไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ รวมถึงผู้ต้องหายังพยายามเข้ารหัสโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ผิดหลายรอบ จนเครื่องล็อก ไม่ให้เจ้าหน้าที่ค้นข้อมูลหาหลักฐาน

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า กทม.ให้ความร่วมมือตำรวจ มาตั้งแต่กลางปี 2566 เนื่องจากมีเบาะแสการเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ และไม่ได้มีเคสนี้เพียงเคสเดียว แต่มีประมาณ 6 เคส กรณีนี้จะลงโทษทางวินัย ตั้งคณะกรรมการตามขั้นตอน คาดว่าใช้เวลาไม่นาน หากมีหลักฐานที่ชัดเจน ตำรวจก็จะดำเนินการเกี่ยวกับความผิดด้านทุจริต ส่วนที่ว่าจะขยายผลไปถึงผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับตำรวจ ย้ำว่าเราเอาจริงเอาจังในเรื่องทุจริต และความโปร่งใสเพราะเป็นสิ่งสำคัญ เราจะเปลี่ยนกรุงเทพมหานครไม่ได้เลยถ้าเราไม่พูดถึงเรื่องนี้ และต้องจับให้ได้เพื่อไม่ให้เอาเป็นเยี่ยงอย่างและไม่กล้าทำความผิดในลักษณะนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง