ต้องบอกเลยว่าธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามในประเทศไทยนับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่อยู่ในกระแสได้ตลอดเวลา ใคร ๆ ก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจในสายนี้กันเยอะ แต่ก่อนที่จะลงมาลงทุนในตลาดนี้ วันนี้อยากจะลองวิเคราะห์สภาพการแข่งขันให้หลาย ๆ คนได้ลองศึกษากันดูนะครับว่ามีโอกาสและความเสี่ยงอย่างไรบ้าง
ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามในประเทศไทยนับเป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแสได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันเทคโนโลยีทางการแพทย์และนวัตกรรมที่ทันสมัยและความพร้อมด้านการให้บริการก็มีคุณภาพดีและราคาไม่แพงในสายตาของชาวไทยและต่างประเทศ แถมยังเป็นอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้ความสนใจและสนับสนุนให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ในภูมิภาคอาเซียน (Medical Hub of ASEAN) การพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ให้มี เทคโนโลยีและคุณภาพเพื่อเป็นฐานการผลิต Medical and Health Industry ที่สำคัญในอาเซียน ยิ่งส่งให้ธุรกิจนี้มีคนอยากเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งแต่เมื่อมีปัจจัยบวกก็ใช่ว่าจะไม่มีปัจจัยลบ ที่จะเข้ามากระทบทำให้ธุรกิจนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
โอกาสในธุรกิจความงามและสุขภาพ
1. มูลค่าตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจด้านสุขภาพความงามเป็นธุรกิจดาวรุ่งยอดนิยมต่อเนื่องกันมา 6 ปี มูลค่าตลาดความงามในไทยมากถึง 250,000 ล้านบาท จนทำให้มีผู้ประกอบการรายเก่า และผู้ประกอบการหน้าใหม่ ทั่วประเทศกว่า 1,800 ราย จึงทำให้ผู้ประกอบการมองหาตลาดใหม่ในกลุ่มอาเซียน เพราะถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งมูลค่าตลาดของอาเซียนมากถึง 500,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
2. การเปิด AEC ทำให้ตลาดกว้างขึ้น
ต้องยอมรับว่าธุรกิจสุขภาพและความงาม เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตมาก และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและยิ่งเปิดตลาด AEC ยิ่งมีการขยายฐานธุรกิจด้านความงามออกไปประเทศเพื่อนบ้านกันมากขึ้น ถือว่ามีกระแสตอบรับที่ดี ซึ่งมูลค่าตลาดสุขภาพความงามมีมูลค่าหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนหนึ่งมากจากประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียมีวัตถุดิบที่นำมาเป็นสารสกัด จึงทำให้ต้นทุนต่ำกว่าประเทศอื่นที่ต้องนำเข้า
3. ความทันสมัยทางด้านการตลาดออนไลน์
ในด้านการส่งเสริมตลาด ก็ทำได้ง่าย เพราะปัจจุบันมีโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มต่างๆ ที่สามารถส่งข้อมูลข่าวสารถึงลูกค้าและผู้บริโภคได้โดยตรงและเป็นจำนวนมาก หากรู้เทคนิคและวิธีการทำตลาดออนไลน์ จะช่วยประหยัดค่าการตลาดไปได้มาก ซึ่งทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นจากการลดต้นทุนทางการตลาด ซึ่งกลยุทธ์ด้านการตลาดออฟไลน์ ก็ควรดำเนินการไปตามปกติ และหันไปบุกตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อเสริมซึ่งกันและกัน เพราะตอนนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป เราซึ่งเป็นผู้ประกอบการต้องตามลูกค้าให้ทัน
4. นวัตกรรม งานวิจัย ที่รัฐให้การสนับสนุน
เนื่องจากธุรกิจสุขภาพความงาม มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบหลัก และส่วนประกอบสำคัญของธุรกิจนี้รัฐจึงเข้ามาส่งเสริมผู้ประกอบรายย่อย เพื่อให้นำวัตถุดิบที่อยู่ในพื้นที่ออกมาใช้ให้มากที่สุด เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนอีกทั้งยังเป็นสมุนไพรไทย
5. ระบบการขนส่ง Logistic ที่มีให้เลือก
ระบบขนส่ง Logistic ปัจจุบันนี้ มีความทันสมัย และมีระยะเวลาการขนส่งที่เร็วขึ้น แม้จะส่งจากไทยไปต่างเทศ และขนส่งภายในไทยไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ทำให้ไม่มีข้อจำกัดในการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นขนส่งเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ความงาม ผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อส่งตรงถืงมือลูกค้า หรือเพื่อขยายสาขา ระบบการขนส่ง Logistic ก็มีความปลอดภัยในการขนส่ง ทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ หรือระบบขนส่งภายในประเทศเอง
6. ความต้องการของสินค้าสุขภาพความงามไทยในตลาดต่างประเทศ
เนื่องจากมีผู้ประกอบการเกิดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การแข่งขันกันสูงขึ้น เพื่อให้มียอดจำหน่ายที่ต่อเนื่อง และต้องการขยายฐานลูกค้า จึงมีธุรกิจสุขภาพความงามขยายสาขาไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านกันมากขึ้น และนำสินค้าสุขภาพความงามออกไปจำหน่ายต่างประเทศด้วย ซึ่งสินค้าไทยเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ เพราะมีจุดขายตรงวัตถุดิบและส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ และมีงานวิจัยรองรับ ที่เป็นตัวยืนยันความปลอดภัย กลุ่มลูกค้าต่างประเทศจึงนิยมและเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าไทย
ปัจจัยเสี่ยงและอุปสรรคที่อาจจะต้องเจอ
1. การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นทั้งจากคู่แข่งเดิมและคู่แข่งรายใหม่
2. การปลอมแปลงเวชภัณฑ์ และการหลอกลวงในการให้บริการจนเป็นเหตุให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ
3. มาตรฐานและความปลอดภัยของอุปกรณ์ต่างๆ ในการให้บริการ
4. จำนวนผู้เชี่ยวชาญและความเพียงพอของบุคลากรในการรักษาโดยเฉพาะสาขาพยาบาล และแพทย์เฉพาะทางมีจำนวนจำกัด
5. ความน่าเชื่อถือของบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้บริการ
6. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไมได้รับอนุญาต
7. ผลิตภัณฑ์มีการลอกเลียนแบบได้ง่าย
ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย การแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจึงจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องเร่งปรับตัวและพัฒนาบริการและสินค้าที่เกี่ยวข้องให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคให้ดีและรวดเร็วที่สุด พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของธุรกิจและเป็นที่ต้องการรวมทั้งเป็นที่ยอมรับของตลาดรวม และต้องมีความยืดหยุ่นพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ไม่หยุดนิ่งเช่นกัน
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่