สามีร้อง ภรรยากลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา หลังพาไปผ่าคลอดลูกคนเล็กที่ รพ. เคราะห์ซ้ำทาง รพ.ยืนยันรักษาตามขั้นตอน ถึงฟ้องก็ไม่มีเงินจ่าย พร้อมใส่ซองให้จำนวนหนึ่ง
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพตัวเองกับลูกน้อยทั้ง 3 คน ส่วนภรรยานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล พร้อมระบายเรื่องราวสุดทรมานที่เกิดขึ้นกับครอบครัว ภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมกันถึง 7 ปี ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา โดยระบุสาเหตุเกิดจากการไปผ่าคลอดลูกคนเล็ก ที่ทาง รพ.วินิจฉัยผิดพลาด รวมถึงขั้นตอนการผ่าตัด
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่เข้าไปสอบถาม นายประเสริฐ อายุ 38 ปี ที่บ้านกุดชะนวน หมู่ 4 ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อไปสอบถามเจ้าตัวถึงกับกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เล่าทั้งน้ำตา ตอนนี้ต้องเลี้ยงลูกเองตามลำพัง ทั้งหมด 3 คน อายุ 6 ขวบ, 4 ขวบ และคนสุดท้อง 7 เดือน โดย 2 คนแรก ภรรยาคลอดเอง ส่วนลูกคนสุดท้องผ่าคลอด เพราะแพทย์จาก รพ.แจ้งว่า เด็กมีน้ำหนักถึง 4 กิโลกรัม ไม่สามารถคลอดเองได้ ก่อนจะนัดหมายผ่าคลอดในวันที 2 ตุลาคม 2566 ด้วยการดมยาสลบ ซึงก่อนผ่าตัดภรรยามีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
กระทั่งผ่าคลอดสำเร็จ ลูกออกมาอย่างปลอดภัย แข็งแรง จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง แพทย์เดินออกมาบอกว่า กำลังยื้อชีวิตภรรยาหลังมีอาการโคม่า จากนั้นแพทย์จึงส่งตัวภรรยาไปยัง รพ.มหาราชนครราชสีมา หลังถูกส่งตัวไป 29 วัน ก็ถูกส่งกลับมารักษาต่อที่ รพ.สีคิ้ว แต่รักษาเพียง 5 เดือน เกิดการติดเชื้อขึ้นอีก จนต้องส่งตัวกลับมา รพ.มหาราชนครราชสีมา อีกรอบ ล่าสุดพักรักษาตัวนานกว่า 10 วัน อาการไม่ดีขึ้น และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ภรรยากลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา นานกว่า 7 เดือน
ภายหลังจากเกิดเหตุเพียง 2 วัน (4 ตุลาคม 2566) ทาง รพ. และคณะแพทย์ได้มาขอโทษ พร้อมแจ้งว่าถึงฟ้องไป เขาก็ไม่มีเงินจ่าย เบื้องต้นได้ใส่ซองให้ 5,000 บาท และจะยื่นขอเงินช่วยเหลือ สปสช.มาตรา 41 ที่ระบุว่า ถ้าผู้รับบริการได้รับความเสียหาย สามารถขอรับเงินช่วยเหลือได้โดยไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด จำนวน 400,000 บาท ซึ่งครอบครัวไม่อยากได้ แต่ต้องการให้ทีมคณะแพทย์ ออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้
ขณะที่ แพทย์หญิงอารีย์ เชื้อเดช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสีคิ้ว เผยว่า วันเกิดเหตุ นางสาวเบญจมาศ ภรรยาของนายประเสริฐ ได้มาผ่าตัดคลอดบุตร ด้วยการดมยาสลบ ประมาณครึ่งชั่วโมงก็สามารถนำตัวบุตรออกมาได้ โดยไม่มีผลข้างเคียงอะไร แต่หลังจากนั้น พบว่าแม่มีอาการผิดปกติ หายใจอ่อน เพราะขาดอากาศไปเลี้ยงสมอง ทีมแพทย์จึงรีบทำการปั๊มหัวใจ และรีบส่งต่อไปรักษาต่อ ยืนยัน ทางโรงพยาบาลทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ส่วนสาเหตุเกิดจากดมยาสลบและร่างกายของคนไข้ต่อต้าน ซึ่งเป็นผลกระทบข้างเคียง และเป็นหนึ่งในล้านเท่านั้นที่จะเกิดแบบนี้
นอกจากนี้ รพ.ได้รับปากว่า ขอรักษาเบื้องต้นก่อน 6 เดือน หลังจากนั้นจะหารือถึงขั้นตอนการช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัว ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 29 พ.ค.นี้ หากยังไม่มีคำตอบจากโรงพยาบาล จะมีการแจ้งรายละเอียดทุกขั้นตอนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับการวินิจฉัยผิดพลาด
และจะร้องเรียนไปยังหน่วยงานภาครัฐและทุกวันนี้ทางโรงพยาบาลสีคิ้วยังไม่มีคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับภรรยา เกิดข้อผิดพลาดอะไรในการรักษาที่ทำให้ภรรยาต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงหลังผ่าตัดคลอดลูกคนที่ 3 อยากให้โรงพยาบาลออกมารับผิดชอบ เพราะตอนนี้ครอบครัวลำบากมาก ต้องดูแลลูกทั้ง 3 คน และต้องรีบกลับมาดูแลภรรยาที่นอนอยู่โรงพยาบาล ไม่ได้ทำงาน ขาดรายได้ไม่มีเงินมาจุนเจือครอบครัว