พิมพ์ กรกนก เน็ตไอดอล นางแบบและอินฟลูเอนเซอร์สาวขื่อดัง แจ้งความเอาผิดคนปล่อยคลิปลับ ร่ำไห้ขอความเห็นใจ วอนหยุดดู หยุดแชร์ หากพบเจอคลิปให้ช่วยกดรีพอร์ต เผยแชร์ต่อมีความผิด
กรณีเหตุการณ์คลิปลับได้หลุดไปในกระแสโลกออนไลน์ ทางด้าน พิมพ์ กรกนก เน็ตไอดอลนางแบบและอินฟลูเอนเซอร์สาวขื่อดังที่มีผู้ติดตามหลักล้าน ออกมาชี้แจงผ่านคลิปวิดีโอเรื่องคลิปลับที่หลุดไป ยอมรับว่าคนในคลิปลับที่หลุดมาคือตนกับอดีตแฟนหนุ่มจริง ขอความเห็นใจ รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับคนที่นำคลิปมาเผยแพร่ พร้อมกับขอร้องวอนหยุดดู หยุดส่งต่อ หากพบหากพบเจอคลิปให้ช่วยกดรีพอร์ต
ล่าสุด วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา พิมพ์ กรกนก เข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ปล่อยคลิปลับส่วนตัวจนทำให้ได้รับความเสียหาย
ด้าน พิมพ์ กรกนก เปิดเผยว่าฝ่ายชายเป็นแฟนเก่า ซึ่งเลิกกันไปเมื่อประมาณเดือนกันยายนปีที่แล้ว หลังเกิดเหตุ ฝ่ายชายได้ทักมาพูดคุยยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิปลับ แต่ยอมรับว่ายังไม่ได้ลบคลิปจริง ส่วนตัวเชื่อคำพูดฝ่ายชายแค่ครึ่งเดียว ยังไม่ชี้ชัดว่า เขาเป็นคนปล่อยคลิปหรือไม่ อีกทั้งฝ่ายชายอ้างว่า ไม่ได้นำมือถือไปส่งซ่อม แต่หลังเลิกรากันได้มีการตกลงกันแล้วว่า จะต้องลบคลิปเหล่านั้นทิ้ง ซึ่งไม่ทราบเหตุผลที่ทำไมฝ่ายชายยังไม่ลบคลิป ส่วนสภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น มีหลายคนส่งกำลังใจมาให้ และให้เกียรติด้วยการไม่แชร์ต่อ และช่วยลบคลิป พร้อมขอความเห็นใจทั้งน้ำตา ไม่เข้าใจว่าคนที่ปล่อยคลิปมีวัตถุประสงค์อะไร ทำไมต้องใจร้ายกับตนด้วย ซึ่งขอความเห็นใจ โปรดให้เกียรติตน หากเห็นคลิปดังกล่าวขออย่าดู อย่าส่งต่อ หรือช่วยกันกดรีพอร์ต ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่ได้มาแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพราะตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรทางกฎหมาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็ตาม ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
เบื้องต้นตำรวจจะออกหมายเรียกแฟนเก่าของ พิมพ์ เข้ามาให้ปากคำและจะดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งผู้ที่นำคลิปมาเผยแพร่และแชร์ต่อ รวมถึงผู้ที่อยู่ในกลุ่มแชร์คลิปด้วย มีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี ขณะที่ก่อนหน้านี้ อดีตแฟนเก่า มีการโพสต์ชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นคนเผยแพร่คลิปหรือส่งต่อถึงบุคคลอื่น รวมถึงบุคคลที่ถูกกล่าวหา และถูกโจมตี (คนคุยคนใหม่) ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เช่นกัน