ไหลเรือไฟนครพนมวุ่น นายทุนฉวยโอกาสจัดล็อกร้านค้า เก็บค่าเช่าถนนสาธารณะล็อกละ 20,000 บาท บดบังวิวฝั่งโขง

         ไหลเรือไฟนครพนมวุ่น เจอนายทุนเก็บค่าเช่าถนนสาธารณะล็อกละ 20,000 บาท บดบังทัศนียภาพฝั่งโขง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

 

          วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ชาวบ้านผู้ประกอบการในพื้นที่ เขตเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงผู้ประกอบการค้า ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ออกมาโพสต์ดรามา เรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง จังหวัดนครพนม รวมถึงเทศบาลเมืองนครพนม มีการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง กรณีมีกลุ่มนายทุนฉวยโอกาสจัดล็อกร้านค้าแผงลอย กางเต็นท์ จัดสรรเป็นแผงเช่าขายสินค้า ในช่วงงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ระหว่างวันที่ 20 - 30 ตุลาคม 2566 รวม 10 วัน ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนต่อผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่ เนื่องจากมีนายทุนฉวยโอกาส จับจองถนนเส้นทางสาธารณะ สุนทรวิจิตร เลียบแม่น้ำโขง ระยะทางหลาย 100 เมตร พร้อมเรียกเก็บค่าเช่า จากผู้ประกอบการหาบเร่ต่างถิ่น ในราคาห้องเช่าละประมาณ 15,000 - 20,000 บาท ไม่ต่ำกว่า 150 -300 แผง สร้างเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท จนมีคนมาแสดงความคิดเห็นทางสื่อโซเชียล อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมีการตรวจสอบแก้ปัญหา

 

         นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการในพื้นที่เลียบฝั่งน้ำโขง ที่ประกอบร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียล ให้มีการตรวจสอบ เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ และมีนายทุนแสวงประโยชน์ จากการเก็บที่เช่าถนนสาธารณประโยชน์ ถือเป็นทำเลทองติดแม่น้ำโขง ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวใช้บริการร้านค้า ร้านอาหาร เพราะมีการกางเต็นท์บดบังความสวยงามทางทัศนียภาพริมฝั่งโขงในช่วงงานประเพณีไหลเรือไฟออกพรรษา และตั้งข้อสังเกตว่า มีขบวนการเรียกรับประโยชน์ นำเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัว และไม่นำเข้าภาครัฐ เนื่องจากไม่มีหลักฐานยืนยันการออกใบเสร็จรับเงินค่าเช่า รวมถึงไม่มีการเปิดแข่งขันราคาในการเช่าร้านค้าแผงลอย

 

          หลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ผู้ประกอบการขายของหาบเร่ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงสินค้าทั่วไป ส่วนใหญ่มาจากต่างถิ่น โดยมีนายทุน อ้างว่าเช่าช่วงมาจากหน่วยงานภาครัฐ มาเก็บค่าเช่าที่ กางเต็นท์จัดล็อกให้เช่ากว้างประมาณ 3 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร ราคาประมาณ ล็อกละ 15,000 บาท บางล็อกมีขนาดใหญ่ ราคาประมาณ 20,000 บาท แต่ไม่มีใบเสร็จรับเงินระบุหน่วยงาน มีหน้าที่เช่าขาย แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใครที่มาเก็บเงิน โดยจากการตรวจสอบยังพบว่า ช่วงระหว่างถนนสุนทรวิจิตรเลียบฝั่งแม่น้ำโขง จากองค์พญาศรีสัตตนาคราช ยาวไปถึง วัดมหาธาตุ ระยะทางกว่า 500 เมตร มีการจัดพื้นที่ทำเลทองเป็นห้องเช่า มากกว่า 200 ห้อง คาดว่ามีการจัดเก็บเป็นเงินรวมไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รอบศาลากลางจังหวัดนครพนม ที่ยังมีการจัดล็อกเก็บค่าเช่า แต่ไม่ยืนยันว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบ

 

            ด้านผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่เลียบฝั่งโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เปิดเผยว่า อยากสะท้อนปัญหาขอความเห็นใจสำหรับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัดนครพนม เทศบาลเมืองนครพนม ในช่วงจัดงานออกพรรษาไหลเรือไฟ รวม 10 วัน กลับปล่อยให้นายทุนต่างถิ่นฉวยโอกาสมากอบโกยประโยชน์ จัดพื้นที่เช่าทำเลทอง ขายให้ผู้ค้าเร่ต่างถิ่น โดยไม่คำนึงถึงผู้ประกอบการในพื้นที่ จัดงานปีละครั้ง ควรจะให้คนในพื้นที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด แต่ให้คนต่างถิ่นมากอบโกย ไม่คำนึงถึงผลกระทบผู้ประกอบการค้าในพื้นที่ เพราะถนนเลียบแม่น้ำโขงเป็นทำเลทอง ประชาชน นักท่องเที่ยว มาใช้บริการ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก แทนที่จะได้ชื่นชมความสวยงาม แต่ถูกกางเต็นท์บดบังความสวยงาม ทัศนียภาพฝั่งโขง และกระทบการสัญจรของประชาชนนักท่องเที่ยว อยากให้จังหวัดนครพนม หรือหน่วยงานเกี่ยวข้องทบทวน จัดโซนนิ่ง ให้เกิดความเหมาะสม ไม่ใช่เอาใจนายทุนเป็นหลัก ให้นายทุนได้ประโยชน์ ชาวบ้านในพื้นที่กับได้รับผลกระทบ