เปิดปฏิบัติการ Seal Stop Safe! ทหารพรานสกัดยาเสพติด จับ 3 ชาวลาว ขนไอซ์-ยาบ้า ริมโขงนครพนม

         นครพนม - ทหารพรานสนธิกำลังหน่วยงานความมั่นคง สกัดจับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ รวบ 3 ผู้ต้องหาชาวลาว พร้อมของกลางยาไอซ์ล็อตใหญ่ 658 กิโลกรัม และยาบ้ากว่าแสนเม็ด ริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ตอกย้ำนโยบาย "Seal Stop Safe" สกัดยาเสพติดชายแดนของรัฐบาล

 

 

         เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.00 น. ณ กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 บ้านปากห้วยม่วง ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 /ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยผู้บัญชาการหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาชาว สปป.ลาว 3 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 16 กระสอบ น้ำหนักรวม 658 กิโลกรัม และยาบ้า จำนวน 58 มัด รวม 116,000 เม็ด พร้อมรถตู้ 1 คัน และเรือกีบติดเครื่องยนต์ 2 ลำ โดยการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขงบ้านแพงใต้ ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม

 

 

 

 

 

          พลโทบุญสิน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.), กองบังคับการควบคุมที่ 1 (ร.3), หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21, สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 4 และหน่วยงานปกครองในพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้ ร้อยโท วันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 ได้รับแจ้งข่าวสารว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามายังฝั่งไทย บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขงบ้านแพงใต้ จึงได้นำกำลังพลซุ่มเฝ้าตรวจการณ์ กระทั่งพบเรือกีบ 2 ลำ และรถตู้ 1 คัน พร้อมผู้ต้องสงสัย 3 ราย จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและจับกุม

 

        จากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวลาวทั้ง 3 ราย ทราบชื่อคือ ท้าวดำ อายุ 16 ปี, ท้าว ลี อายุ 17 ปี และท้าวพง อภัยโส อายุ 30 ปี ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวลาวให้นำยาเสพติดดังกล่าวมาส่งมอบให้กับลูกค้าในฝั่งไทย โดยได้รับค่าจ้างคนละ 20,000 บาท แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน

 

         แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบาย "Seal Stop Safe" ของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ 51 อำเภอชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2  ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2568 เป็นต้นมา ในพื้นที่จังหวัดนครพนม สามารถจับกุมคดียาเสพติดได้ถึง 139 ครั้ง ผู้ต้องหา 237 ราย ยึดยาบ้าได้กว่า 16.7 ล้านเม็ด, ไอซ์ 778 กิโลกรัม, เฮโรอีน 67 กิโลกรัม และเคตามีน 320 กิโลกรัม  และในพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด 7 จังหวัด 25 อำเภอ สามารถจับกุมได้ 428 ครั้ง ผู้ต้องหา 626 ราย ยึดยาบ้าได้กว่า 74.1 ล้านเม็ด, ไอซ์ 2.5 ตัน, เฮโรอีน 123.95 กิโลกรัม, เคตามีน 573.83 กิโลกรัม และยาเสพติดชนิดอื่นๆ อีกจำนวนมาก

 

           แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ทุ่มเทกำลังกายใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง จนสามารถสกัดกั้นยาเสพติดล็อตใหญ่ครั้งนี้ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกองทัพภาคที่ 2 ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังต่อไป

 

#กองทัพภาคที่2 #SMARTSoldiersStrongARMY #กองทัพบกRoyalThaiArmy #กองทัพบก #นบยส24