เด็ก ม.1 ถูกรุ่นพี่ ม.3 บังคับสูบกัญชา ก่อนหมดสติหัวใจหยุดเต้นคาห้องน้ำโรงเรียน ต้องหามส่งรพ.
logo ข่าวอัพเดท

เด็ก ม.1 ถูกรุ่นพี่ ม.3 บังคับสูบกัญชา ก่อนหมดสติหัวใจหยุดเต้นคาห้องน้ำโรงเรียน ต้องหามส่งรพ.

ข่าวอัพเดท : เด็ก ม.1 ถูกรุ่นพี่ ม.3 บังคับสูบกัญชาห้องน้ำโรงเรียน ก่อนหมดสติหัวใจหยุดเต้น ต้องหามตัวโรงพยาบาล รุ่นพี่ม3,เด็กม1,บังคับ,เสพกัญชา,หมดสติ,หัวใจหยุดเต้น,ห้องน้ำโรงเรียน,ช็อก

905 ครั้ง
|
10 ก.พ. 2566

      เด็ก ม.1 ถูกรุ่นพี่ ม.3 บังคับสูบกัญชาห้องน้ำโรงเรียน ก่อนหมดสติหัวใจหยุดเต้น ต้องหามตัวโรงพยาบาล

 
          เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 ก.พ.66 นางวันนิสา อายุ 42 ปี ผู้เป็นแม่พาลูกชาย คือ เด็กชายณัฐวุฒิ อายุ 14 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ได้เข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกชายถูกรุ่นพี่ ม.3 สองคน บังคับให้สูบกัญชา ภายในห้องน้ำของโรงเรียน เมื่อวันที่ 2 ก.พ.66 ที่ผ่านมา จนทำให้หมดสติ และมีอาการหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล
 
         โดยน้องชายณัฐวุฒิ เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นเวลาเที่ยงตนไปเข้าห้องน้ำจนได้มาเจอรุ่นพี่ ม.3 สองคน ที่กำลังสูบกัญชากันอยู่ และได้เรียกให้ตนเข้าไปหา ตนไม่อยากไปจึงอ้างไปว่าจะต้องขึ้นห้องเรียนแล้ว ก่อนรุ่นพี่จะพูดจาบังคับและดึงตัวเข้าไปในห้องน้ำแล้วบังคับให้ตนเองดูดจนสำลักไป จำนวน2ครั้ง และปล่อยให้กลับขึ้นห้องไป ตอนนั้นอาการเริ่มจะไม่ไหวแล้ว พอไปถึงห้องเรียนก็ได้ไปฟุบตัวอยู่ที่ขาของเพื่อนและขอน้ำดื่ม ก่อนจะอ้วกออกมา เพื่อนๆ จึงพาตัวไปนอนอยู่หลังห้องเรียน มารู้ตัวอีกที่คือตอนที่ คุณครู กำลังช่วยทำ cpr เพื่อปั๊มหัวใจ และนำตัวไปส่งโรงพยาบาล
 
         ทางเพื่อนๆ ได้โทรแจ้งทางแม่ว่าน้องเป็นอะไรไม่รู้ตัวเหลือง และหมดสติหัวใจหยุดเต้น ทำให้แม่ตกใจรีบเดินทางไปที่โรงเรียน ก่อนคุณครูจะโทรมาแจ้งว่าพาน้องไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลแล้ว แม่ก็รีบเดินทางไปโรงพยาบาลและได้พูดคุยกับทางคุณหมอ โดยทางคุณหมอให้ทางแม่ เฝ้าดูอาการน้องอย่างใกล้ชิด เพราะเคสนี้เสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลันมาก  ทางคุณแม่จึงได้โทรสอบถามทางโรงเรียน ทางโรงเรียนแจ้งว่า น้องถูกรุ่นพี่ ม.3 บังคับให้สูบกัญชา และได้ทราบตัวเด็กที่ก่อเหตุแล้ว
 
         โดยน้องต้องรักษาตัวที่ รพ.เป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 2-7 ก.พ.66 ตลอดระยะเวลาที่อยู่ รพ. ทางโรงเรียนไม่เคยติดต่อมาเพื่อสอบถามอาการน้องเลย มีแต่แม่ที่ติดต่อไปหาโรงเรียนเอง หลังโทรติดต่อไปก็มี ผอ.นำกระเช้ามามอบให้ในวันอาทิตย์ ที่ 5 ก.พ. และก็เงียบหายไป ก่อนจะติดต่อมาในวันอังคารที่ 7 ก.พ. วันที่น้องออกจาก รพ.พอดี และกลับคำพูดกับคุณแม่ว่าน้องไม่ได้ถูกบังคับแต่น้องไปซื้อกัญชามาจากเด็ก ม.2 และเต็มใจสูบเองพร้อมอุปกรณ์ก็เป็นของน้องเอง  โดยทางคุณครูอ้างว่า ได้สืบหาข้อมูลภายในโรงเรียน และหลักฐานจากกล้องวงจรปิดห้องน้ำ โดยเห็นน้องวิ่งเข้าไปอ้วก โดยมีเด็กอีกคนมาลูบหลังให้และได้ไปสอบถามเด็กที่ลูบหลัง โดยไม่รู้เลยว่าเด็กที่ลูบหลังนั้น เป็นคนเดียวกับที่บังคับน้องสูบกัญชานั่นเอง และเด็กคนนั้นอ้างว่าน้องเป็นคนผิด โดยทางโรงเรียนไม่เคยมาสอบถามพูดคุยกับน้องเลยสักครั้ง  แต่ทางโรงเรียนดันมาปักใจเชื่อว่าน้องผิดได้ยังไง  คุณแม่จึงนำหลักฐานแชตที่ น้องณัฐวุฒิ ถูกรุ่นพี่สองคน ส่งข้อความมาขู่ว่าให้ยอมรับไปคนเดียวและไม่ได้ถูกบังคับให้สูบ และรับว่ากัญชาเป็นของน้อง และน้องเสพแต่เพียงผู้เดียว  คุณแม่ไม่อยากให้ทาง รร. ปัดความรับผิดชอบทิ้ง และกลัวน้องไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ
 
         ทางด้านนายเอกภพ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้สำคัญมาก ไม่อยากให้ทางโรงเรียนปัดความรับผิดชอบ เพราะนี่เป็นเรื่องความเป็นความตายได้เลย เพราะน้องถึงขั้นมีอาการหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ต้องนอนรักษาตัวที่ รพ. ถึง 5 วัน และยังต้องกลับมาดูอาการต่อที่บ้าน วันแรกที่ออกจาก รพ. ยังมีอาการมึนทำให้ตกมอเตอร์ไซค์อีกด้วย และยังต้องเข้าพบหมอตามนัด เพื่อเช็กระบบประสาท และระบบหัวใจต่อๆ ไปอีก โรงเรียนจะมาปัดความรับผิดชอบไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะทางด้านน้องก็ได้ให้การชัดเจนว่ากัญชาและบ้องกัญชานั้นเป็นของรุ่นพี่จริงๆ และถูกบังคับให้สูบจริงๆ นายเอกภพกล่าว ในวันนี้ (10 ก.พ.) จะพาทางด้านน้องและแม่ไปแจ้งความ ที่ สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี และจะติดต่อให้สำนักงานเขตการศึกษาจังหวัดลพบุรี ลงมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย