เหตุการณ์โศกนาฏกรรมในงานเทศกาลวันฮาโลวีน เมื่อ 29 ตุลาคม 2565 ที่จัดขึ้นในย่านอิแทวอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเบียดเสียด จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนเหยียบกันจนเสียชีวิต โดยรายงานเบื้องต้นประมาณ 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ มีผู้เสียชีวิต 153 ศพ บาดเจ็บอีก 82 คน
ย้อนรอยเหตุสะเทือนขวัญชาวโลกในเกาหลีใต้ ที่ผ่านมา มี 3 เหตุการณ์ใหญ่ที่สาเหตุต่างกัน 3 ครั้ง ที่นำมาซึ่งความสูญเสีย คือเหตุตึกถล่ม เรือล่ม และน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 80 ปี
โศกนาฏกรรมห้างสรรพสินค้าซัมพุงถล่ม มีผู้เสียชีวิตมากสุดติดอันดับโลก เกิดขึ้นช่วงเวลา 17.52 น. วันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 1995 ช่วงเลิกงานของพนักงานในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มีเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อตึกระฟ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 502 ศพ และบาดเจ็บกว่า 1,000 คน
มูลค่าความเสียหายกว่า 7,200 ล้านบาท เป็นความเสียหายมากที่สุดนับจากเหตุการณ์สงครามที่แบ่งเกาหลีเป็นสองฝั่ง แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแดนโสม เมื่อรัฐออกกฎระเบียบให้มีการตรวจสอบการสร้างตึกสูง และทำโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติกรรมคอร์รัปชันอย่างจริงจัง
เพราะต้นเหตุของการถล่มเกิดจากความสะเพร่าของเจ้าของตึก ที่แรกเริ่มวางรากฐานตึกให้เป็นเพียงอพาร์ตเมนต์แค่ 4 ชั้น แต่การพัฒนาที่ไหลบ่าเข้ามาช่วงก่อนการแข่งขันโอลิมปิกปี ค.ศ. 1988 ทำให้กรุงโซลเจริญก้าวหน้าด้วยตึกสูง ไม่เว้นแม้แต่ตึกแห่งนี้ ที่ต่อเติมตัดเสาเพื่อวางรากฐานใหม่อย่างผิดเพี้ยน โดยไม่คำนึงถึงหลักวิศวกรรม
เมื่อห้างสรรพสินค้าซัมพุง เปิดใช้บริการ กลายเป็นศูนย์รวมแห่งความทันสมัย สินค้าแบรนด์เนมและข้าวของเครื่องใช้อันล้ำหน้าถูกวางจำหน่ายในพื้นที่นี้ ว่ากันว่าความรุ่งเรืองของห้างแห่งนี้มีคนที่มาช็อปปิ้งวันละ 4 หมื่นคน สร้างรายได้วันละ 17 ล้านบาท
ความล้ำสมัยของห้างสรรพสินค้าซัมพุง กวักมือเรียกนักช็อปจากทั่วเกาหลีให้มาสัมผัสความล้ำสมัย แต่ 2 ปี ก่อนเกิดเหตุถล่ม ชั้นดาดฟ้าของตึกเริ่มมีรอยร้าว แต่ทางผู้บริหารกลับย้ายสินค้ามาชั้นล่าง และซ่อมแซมชั้นบน ประกอบกับชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนปัญหาเสียงแอร์ที่ดังรบกวน
สุดท้ายตึกระฟ้าของห้างสรรพสินค้าซัมพุง เกิดถล่ม และมีผู้เสียชีวิต ส่วนผู้บริหารห้างดังกล่าวพร้อมกับพวกรวม 30 คน ถูกศาลเกาหลีใต้ ตัดสินจำคุก และเกิดการออกมาตรการต่างๆ ตามมาจนถึงปัจจุบัน
ย้อนกลับไป 8 ปีก่อน โศกนาฏกรรม เรือเฟอร์รี่ เซวอล สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วเกาหลีใต้ สิ่งที่สร้างความเศร้าใจให้กับคนทั่วโลกคือ เป็นเรือเที่ยวแรกและเที่ยวสุดท้ายของเด็กบางคน เพราะเมื่อเรือออกเดินทางจากท่าเรืออินชอน จุดมุ่งหมายของเรือมรณะอยู่ที่เกาะเชจู แต่ความสนุกสนานที่รออยู่ปลายทางของผู้โดยสารทั้ง 476 คน กลับพังทลายกลืนหายสู่ใต้ท้องทะเล
คลื่นลมแรงและความไม่ชำนาญของกัปตัน ทำให้เรืออับปาง เมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2014 โดยมีผู้เสียชีวิตรวม 325 ศพ และเกือบครึ่งของผู้เสียชีวิตเป็นเด็กนักเรียนที่มาทัศนศึกษากับโรงเรียน
สิ่งที่สร้างริ้วรอยความบอบช้ำให้กับเด็กที่รอดชีวิตรายหนึ่งเล่าว่า เรือที่เอียงและเตรียมจะจมหายไปยังก้นทะเล แต่กัปตันกลับประกาศให้ลูกเรืออยู่ในความสงบ แทนที่จะลำเลียงผู้โดยสารให้ออกไปจากเรือ สิ่งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
แต่สิ่งที่หนักกว่านั้นคือการกู้ซากเรือ ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนลาออก เพื่อรับผิดชอบความผิด ส่วนกัปตันเรือถูกศาลเกาหลีใต้ สั่งจำคุกตลอดชีวิต
เหตุการณ์ฝนตกหนักสุดในรอบ 80 ปี ในพื้นที่กรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก เพราะผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่ง เป็นคนที่อยู่ในบ้านกึ่งใต้ดิน มีรายได้น้อย สะท้อนความเหลื่อมล้ำภายในสังคมแดนโสม จนภาครัฐต้องออกมาตรการต่างๆ มาป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอย
เหตุการณ์นี้มีฝนตกหนักสะสมกว่า 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าหนักสุดในรอบ 80 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ศพ สูญหายอีกกว่า 7 ราย
ภาพน้ำท่วมจมมิดรถยนต์และลานจอดรถในคอนโดหรูหลายแห่งของเกาหลีใต้ ถูกแชร์ในโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว และมีการตั้งคำถามมากมายถึงเมืองที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ไม่สามารถเอาชนะภัยธรรมชาติได้อย่างที่มนุษย์วาดหวังไว้.