เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.65 นายสมบูรณ์ กรมไธสง อายุ 42 ปี และ นางน้ำฝน เทพพิทักษ์ อายุ 35 ปี ชาว ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ สองสามีภรรยา ได้ร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อ จากกรณีน้องต้นน้ำ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ลูกชายคนเดียว มีอาการปวดท้องหนักจนต้องหามส่งโรงพยาบาล หมอแจ้งว่าปวดท้องไส้ติ่งจึงส่งตัวไปที่โรงพยาบาลใหญ่ พอถึงโรงพยาบาลใหญ่แพทย์ก็ไม่ยอมรักษาทันที ปล่อยทิ้งไว้นานถึง 2 วันจนลูกชายเสียชีวิตเนื่องจากไส้ติ่งแตกและติดเชื้อ
โดย นายสมบูรณ์ คุณพ่อเล่าว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. น้องต้นน้ำ ป่วยด้วยอาการปวดท้อง เข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทไธสง เวลา 13.00 น. แพทย์ตรวจพบไส้ติ่งอักเสบ และส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ในวันเดียวกัน แพทย์บุรีรัมย์แจ้งว่าได้คิวผ่าตัดเวลา 24.00 น. ของคืนเดียวกัน เมื่อเข็นเข้าห้องผ่าตัดไปประมาณ 5 นาที น้องถูกเข็นออกมาคืน เวรเปลแจ้งคุณพ่อของน้องว่า “แพทย์มีเคสพิเศษ 2 เคส”
ต่อมาวันที่ 30 พ.ค. เวลาประมาณ 15.00 น. น้องถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง แต่อาการหนักแล้ว จนกระทั่งเวลา 16.00 น. น้องออกจากห้องผ่าตัด ถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียูในทันที จนเวลา 1.00 น. คืนนั้น (31 พ.ค.) น้องเสียชีวิต ทำให้ตนคาใจว่าลูกชายส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวถึง 2 วัน แต่แพทย์กลับไม่เร่งผ่าตัดให้ จนทำให้น้องต้นน้ำต้องเสียชีวิตลง ตอนนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจากทางโรงพยาบาล
ทางด้านนางน้ำฝน คุณแม่เปิดเผยความในใจว่า “ถ้าคุณหมอยอมผ่าให้ลูกของตนก็คงไม่เสีย ตนติดใจทำไมไม่ผ่าให้ลูกในทันที ทำไมต้องให้นอนรออยู่โรงพยาบาลตั้ง 2 วัน เป็นเพราะอะไร? ทำไมแพทย์ไม่อธิบาย ทำไมถึงเงียบไปเลย ไม่ติดต่อมาหาผู้ปกครองเลย ทำไมต้องให้ทางเราติดต่อไปเองฝ่ายเดียว อยากให้โรงพยาบาลมีคำตอบให้มากกว่านี้หน่อย ตนมีลูกเพียงคนเดียว”
ขณะนี้คุณย่าของน้องต้นน้ำวัย 86 ปี คิดถึงหลานมาก ๆ เพราะตอนที่หลานยังมีชีวิตอยู่ คุณย่าจะเป็นคนหาข้าวให้ก่อนไปโรงเรียนทุกวัน
ประเด็นเรื่องเคสพิเศษ หรือ VIP ทางทีมงาน “ถกข่าวร้อน” ได้สอบถามไปยังทีมแพทย์อาวุโสว่า เคสแบบนี้มีจริงหรือไม่ ได้คำตอบมาว่า มีอยู่จริง แต่จะแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะคือ
1. ผู้ป่วยที่เป็นบุคคลสำคัญทางสังคม
2. ผู้ป่วยที่มีสายสัมพันธ์รู้จักกัน
3. ผู้ป่วยที่อยู่ในสถานการณ์วิกฤต
ทั้งนี้ ผู้ป่วย VIP เหล่านี้จะต้องมีการพิจารณาตามความเหมาะสม และสถานการณ์ของผู้ป่วยด้วยว่ามีอาการป่วยมาก-น้อยเพียงไร ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนแค่ไหน ซึ่งต้องจัดลำดับความสำคัญว่าท่านใดจะได้รับการรักษาก่อน
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แถลงข่าวเรื่องนี้ว่า ผู้ป่วยได้คิวห้องผ่าตัดเวลา 23.30 น. ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. ซึ่งตอนนั้นห้องผ่าตัดมี 3 ห้อง เต็มทั้ง 3 ห้อง จึงให้น้องรอจนวันที่ 30 พ.ค. เวลา 11.00 น. คนไข้มีภาวะหัวใจล้มเหลว จึงนำตัวเข้าห้องผ่าตัดเวลา 13.00 น. และผ่าตัดจนเสร็จเวลาประมาณ 14.00 น. พบว่าน้องมีอาการหายใจเร็วขึ้น และติดเชื้อในกระแสเลือด ใส้ติ่งแตก มีหนองอยู่โดยรอบ และต่อมา คืนวันที่ 31 พ.ค. เวลา 2.00 น. คนไข้เสียชีวิต
โรงพยาบาลยอมรับความผิดเรื่องการรักษาล่าช้าจริง แต่ไม่มีการพูดถึงประเด็นเรื่อง VIP ต้องสืบก่อนว่าใครเป็นผู้พูดเรื่องนี้ แต่ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าไม่มีเคสพิเศษตัดหน้าน้องจริง