UFO โผล่! สหรัฐฯเรียกประชุมในรอบ 50 ปี หลังทหารถ่ายคลิปติดวัตถุต้องสงสัยบนฟ้า

          วันที่ 19 พ.ค.65 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีการประชุมในรัฐสภาสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการพบเห็นยูเอฟโอ (UFO) ในสหรัฐฯ ในรอบกว่า 50 ปี โดยเพนตากอนมุ่งมั่นที่จะกำหนดต้นกำเนิดของสิ่งที่เรียกว่า "ปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่ปรากฏชื่อ" ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่ายูเอพี (UAP) กองทัพเร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหล่านี้ แต่ก็ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเป็นสิ่งที่มาจากนอกโลก โดยมีรายงานการพบปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถระบุได้แล้วกว่า 400 เคส

 

            โดยเจ้าหน้าที่ 2 คน ได้แก่นายโรนัลด์ มูลตรี และนายสก็อตต์ เบรย์ เข้ารายงานต่อหน้าคณะอนุกรรมการข่าวกรองในรัฐสภาสหรัฐ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 11 เดือน หลังจากรายงานปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่ปรากฏชื่อหรือ ยูเอพี (UAP)  มากกว่า 140 เคส ที่ทหารอากาศสหรัฐฯ ได้สังเกตมาตั้งแต่ปี 2547 โดยชี้ว่ายังขาดการอธิบาย และจำเป็นต้องมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่มากขึ้นเพื่อระบุว่า มันเป็นระบบทางอากาศของหน่วยงานลับของสหรัฐฯ หรือเป็นวัตถุจากต่างประเทศ โดยยังระบุว่าสภาพอากาศ ก็อาจเป็นปัจจัยส่งผลให้เกิดการเข้าใจที่ผิดพลาดได้

 

         โดยนายสก็อตต์ เบรย์ นำเสนอคลิปวิดีโอยูเอพี (UAP)  2 คลิป โดยคลิปแรกแสดงให้เห็นวัตถุรูปสามเหลี่ยมกะพริบบนท้องฟ้า ภายหลังระบุว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางสายตาของแสงที่ลอดผ่านแว่นสายตาตอนกลางคืน และอีกคลิปแสดงวัตถุทรงกลมแวววาวผ่านหน้าต่างห้องนักบินของเครื่องบินทหาร ซึ่งสิ่งนี้ยังคงไม่ได้อธิบาย

 

        ซึ่งรายงานปี 2564 มียูเอพี (UAP)  ก่อนหน้านี้ที่แสดงความเร็วและความคล่องแคล่วเกินเทคโนโลยีการบินที่รู้จัก และไม่มีวิธีการขับเคลื่อนหรือพื้นผิวควบคุมการบินที่มองเห็นได้ รวมทั้งเหตุการณ์ที่นักบินกองทัพเรือบรรยายว่า คล้ายกับเหรียญบิน เป็นอีกกรณีที่ยังคงจัดอยู่ในประเภท "หาข้อสรุปไม่ได้"

 

            ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ให้คำมั่นว่าเพนตากอนจะปฏิบัติตามหลักฐานไม่ว่าจะนำไปสู่ที่ผลลัพธ์อย่างไร และแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป้าหมายหลักคือ การจัดการกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ และนายโรนัลด์ มูลตรี กล่าวว่า "เรารู้ว่าสมาชิกของเราได้พบกับปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่ปรากฏหลักฐาน และเนื่องจากยูเอพี (UAP) อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการบิน และความปลอดภัยทั่วไป เราจึงมุ่งมั่นที่จะพยายามระบุที่มาของพวกมัน"