รวบแล้ว! โจรแสบปล้นบ้านนายธนาคาร พบประวัติก่อคดีโชกโชนนับ 20 ปี อึ้ง! วางแผนที่ เตรียมปล้นบ้านอีก 15 หลัง
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง แถลงผลการจับกุมตัวนายบรรจง หรือบี อายุ 37 ปี ผู้ต้องหางัดตู้เซฟภายในบ้านนายธนาคาร พร้อมของกลาง ทองคำรูปพรรณ ทองคำแท่ง ชุดเครื่องประดับ ธนบัตรรัฐบาลไทย เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ บัตรกดเงินสด (ATM) และรายการอื่น ๆ หลายรายการ ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่าน อ.เมือง จ.นนทบุรี พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชาย 1 คน ก่อเหตุลักทรัพย์โดยการงัดตู้เซฟ บ้านหลังหนึ่งภายในซอยรัชดานิเวศน์ 9 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพ เป็นบ้านของนายธนาคาร รวมมูลค่าทรัพย์สินนับสิบล้านบาท ก่อนจะหลบหนีไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายบรรจง ได้พักอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ ย่านรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ต่อมาวันที่ 25 เม.ย. ตำรวจได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นพบทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้าย จำนวน 39 รายการ มูลค่ากว่า 2,100,000 บาท และอาวุธปืน 1 กระบอก แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหา โดยทราบเบาะแสว่า นายบรรจงได้หลบหนีมาพักอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่าน อ.เมือง จ.นนทบุรี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 พ.ค. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมพร้อมยึดทรัพย์สินอีก 53 รายการ มูลค่า 3,800,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์ที่ยึดได้ 2 ครั้ง 5,900,000 บาท
อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนยังสงสัยก็คือ โจรหนุ่มรายนี้รู้ได้อย่างไรว่า เจ้าของบ้านซ่อนตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้ที่ไหน มีวิธีการค้นหาและเลือกบ้านเป้าหมายอย่างไรบ้าง ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลเชิงลึกกับ พ.ต.ท.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา รอง ผกก.สืบสวน สน.ห้วยขวาง บอกว่า เจ้าหน้าที่ได้แบ่งข้อมูลในเรื่องนี้ออกเป็น 2 ส่วน คือ การสอบปากคำผู้ต้องหา และจากแนวทางการสืบสวนของตำรวจ
โดยคนร้ายรับสารภาพว่า จะใช้วิธีการสุ่มเลือกบ้านในพื้นที่เป้าหมายที่ได้เลือกเอาไว้ โดยจะเลือกหมู่บ้านที่เป็นลักษณะเปิด ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งจะเดินทางมาดูลาดเลาบ้านเป้าหมายก่อนหน้าวันก่อเหตุ 2-3 รอบก่อน โดยใช้รถสาธารณะในการเดินทาง ทั้งแท็กซี่และจักรยานยนต์รับจ้าง จากนั้นพอเลือกบ้านเป้าหมายได้แล้ว ก็จะใช้วิธีตรวจสอบก่อนว่าบ้านแต่ละหลังมีคนอยู่หรือไม่ ทั้งการเคาะประตู หรือกดกริ่ง ถ้าหากในบ้านมีแสงไฟเปิดอยู่ก็จะไม่เข้าไป โดยบ้านที่ก่อเหตุงัดตู้เซฟนั้น คนร้ายเลือกวิธีการงัดหน้าต่างด้านหลังบ้านเพื่อเข้าไปในตัวบ้าน และใช้เวลาอยู่ในบ้านนานถึง 44 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนอยู่ในบ้านแล้ว
หลังจากนั้นก็จะออกไปในช่องทางเดิมที่งัดเข้ามา เพื่อออกไปเอาอุปกรณ์ของตัวเองที่นำมาวางไว้ใกล้ๆบ้านเป้าหมาย ก่อนจะกลับเข้ามาทำการงัดตู้เซฟลักทรัพย์สินไป ซึ่งตอนที่คนร้ายหลบหนี ได้วางแผนให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ยากขึ้น โดยการใช้วิธีการเดินไปตามเส้นทางต่าง ๆ ลัดเลาะตามซอกซอย ก่อนจะนั่งรถสาธารณะทั้งแท็กซี่และจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนี
ส่วนข้อมูลจากแนวทางการสืบสวนนั้น เจ้าหน้าที่พบว่า นายบรรจง มีความชำนาญในการก่อเหตุและหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นที่พักใน จ.นนทบุรี พบว่า นายบรรจงได้ทำแผนที่เส้นทางของบ้านหลังอื่นอีก 15 หลังไว้ก่อนหน้านี้อีกด้วย พ.ต.ท.ธนะเมศฐ์ ยังบอกอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรของคนร้ายรายนี้ พบว่า เคยก่อเหตุมาแล้ว 7 ครั้ง เริ่มจากปี 2543 เคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ ปี 2550 คดีลักทรัพย์ ปี 2553 โดน 3 คดี คือ คดีลักทรัพย คดีชิงทรัพย์ และคดีข่มขืน ต่อมาปี 2562 ถูกจับกุมในคดีชิงทรัพย์ (งัดเซฟ) และล่าสุด ปี 2565 คดีลักทรัพย์ พ.ต.ท.ธนะเมศฐ์ บอกอีกว่า หากสังเกตไทม์ไลน์การก่อเหตุอาชญากรรมของนายบรรจงคนนี้ จะพบว่า มีช่วงความห่างของเวลาในการก่อเหตุ ซึ่งช่วงเวลาที่หายไปคือ นายบรรจงรับโทษอยู่ในเรือนจำ แต่พอพ้นโทษก็กลับออกมาก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงถือว่านายบรรจงเป็นบุคคลที่มีความอันตรายอย่างมาก
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/hQm7bbtGfFw