สหรัฐฯ จัดนิทรรศการ บรูซ ลี เพื่อให้เห็นแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิตบรูซ ลี

        สหรัฐฯ จัดนิทรรศการบรูซลี เพื่อแสดงให้เห็นอิทธิพลของลี ต่อชุมชน และแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิตบรูซ ลี

 

          เมื่อวันที่ 3 พ.ค.65 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มีการจัดนิทรรศการใหม่ของบรูซ ลี ปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเป็นที่ดึงดูดแฟนๆ และผู้สนใจจากทั่วโลก และในงานยังเน้นถึงอิทธิพลที่กว้างขวางของบรูซ ลี ที่มีต่อชุมชนต่าง ๆ

 

            โดยมีชื่องานว่า "We Are Bruce Lee" ของสมาคมประวัติศาสตร์จีนแห่งอเมริกา ซึ่งเปิดในไชน่าทาวน์ของรัฐซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิตดาราศิลปะการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำรวจความนิยมของลี ที่เขาได้รับจากชุมชนชนกลุ่มน้อยที่มีบทบาทน้อยกว่าที่อื่น ๆ

 

              ทางด้าน นักสะสม เจฟ ชิน บอกว่า เขาถูกรังแกจนกลายเป็นแผลในกระเพาะอาหาร แต่โปสเตอร์ที่มีบรูซ ลี เป็นแรงบันดาลใจให้เขาต่อสู้เหมือนฮีโร่ของเขา ชินกล่าวว่า “ฉันร้องไห้และเหมือนบรูซ ลี พูดกับฉันว่า 'ไม่เป็นไรเจฟฟ์ เพราะฉันเป็นคนจีนและอยากให้คุณภูมิใจ ฉันเลยบอกบรูซว่าถ้าคุณช่วยฉันในช่วงเวลาที่มืดมนนี้ ชีวิตของฉัน ฉันจะตอบแทนคุณสักวันหนึ่ง”

 

           หลังจากนั้นชิน ได้ยืมสิ่งของประมาณ 300 ชิ้นมาจัดแสดง หนึ่งในนั้นคือ ละครทีวีเรื่อง Green Hornet ที่นำแสดงโดย บรูซ ลี เป็น Kato เพื่อนสนิทของ Green Hornet รวมถึงเอกสารที่แสดงว่า ลี ได้รับค่าจ้างน้อยกว่านักแสดงที่มีบทบาทรองลงมา และน้อยกว่าสตันต์แมนด้วย

 

         จัสติน ฮูเวอร์ กรรมการบริหารของพิพิธภัณฑ์สมาคมประวัติศาสตร์จีนแห่งอเมริกากล่าวว่า “นิทรรศการของเราคือการได้เห็นบรูซในรูปแบบต่าง ๆ และแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเขาเป็นปรมาจารย์กังฟู เขาเป็นมากกว่านั้น และเป้าหมายคือการเชื่อมต่อกับชุมชนแอฟริกันอเมริกัน เพราะเขามีพลังมากในวิธีที่เขาทำ” เพราะนักเรียนคนแรกของบรูซเป็นชาวแอฟริกัน-อเมริกัน และเขาทำงานร่วมกับนักเรียนคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่มีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน

 

         ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมนิทรรศการจะได้รับการสนับสนุนให้แบ่งปันความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่บรูซ ลีมีความหมายต่อพวกเขา ทาง เมลานี กรีน ภัณฑารักษ์กล่าวว่า “เราได้รับเชิญให้มีส่วนร่วมในเรื่องราวของบรูซ ลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีส่วนในความรัก ความผูกพัน และความเคารพที่ชุมชนคนผิวสีมีให้เขา และขยายไปสู่ชุมชนแห่งสีสัน”