ตลาดอาหารทดแทน เทรนด์ใหม่มาแรงของเหล่าวัยรุ่น
logo ข่าวอัพเดท

ตลาดอาหารทดแทน เทรนด์ใหม่มาแรงของเหล่าวัยรุ่น

2,805 ครั้ง
|
07 ก.พ. 2565

           ในปัจจุบันจำนวนผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนเป็นจำนวนมาก โดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบันวิจัยประชากรและสังคมมหาวิทยาลัยมหิดลเผยรายงานว่า พบคนไทยน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 2 ทศวรรษ เทียบ 10 ประเทศในเอเชียเพศชายไทยอยู่ในอันดับ 4 เพศหญิงอยู่ในอันดับ 2  และยังระบุอีกว่าโรคอ้วนถือเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จึงทำให้มีผู้ที่สนใจในเรื่องการลดน้ำหนักเป็นจำนวนมาก เพราะต่างตระหนักถึงผลร้ายของโรคอ้วนที่มีผลต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นทั้งชายหรือหญิง คนหนุ่มสาวหรือคนแก่ และกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งวิธีการลดความอ้วนของแต่ละวัยก็จะแตกต่างกันออกไป

            ระบุอีกว่าโรคอ้วนถือเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จึงทำให้มีผู้สนใจเรื่องการลดน้ำหนักเป็นจำนวนมาก เพราะต่างตระหนักถึงผลร้ายของโรคอ้วนที่มีผลต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นทั้งชายหรือหญิง คนหนุ่มสาวหรือคนแก่ และกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งวิธีการลดความอ้วนของแต่ละวัยก็จะแตกต่างกันออกไป

           สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยวิธีการควบคุมพลังงานของอาหารคงอยากจะรับประทานอาหารที่ให้พลังงานอย่างจำกัดและได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการแต่ด้วยในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ มีข้อจำกัดด้านเวลา และไม่มีเวลาจัดเตรียมอาหาร ทำให้หลายคนหันไปพึ่งอาหารทดแทน

           ผลิตภัณฑ์ทดแทนอาหาร (Meal Replacement) เป็นสินค้าอาหารที่ใช้รับประทานแทนอาหารได้ จะมีลักษณะเป็นผงที่นำมาชงกับน้ำหรือนม หรืออาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ขวดพร้อมดื่ม โดยจะให้พลังงานมื้อละประมาณ 200 – 300 กิโลแคลอรี่ แถมยังให้สารอาหารที่ครบถ้วนทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ และยังมีไฟเบอร์สูงทำให้อิ่มท้องได้ง่ายและเป็นเวลานาน

            อีกทั้งยังมีผลวิจัยที่เด่นชัดที่สุดที่ทำโดย Dr.Herwig Ditschuneit ที่ University of Ulm in Germany โดยเก็บข้อมูลนานกว่า 4 ปี การวิจัยได้แบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก ให้ทานอาหารปกติ แต่ทานน้อยลงโดยลดแคลอรี่ของอาหารให้เหลือประมาณ 1,200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน กลุ่มที่สอง ให้ทานผลิตภัณฑ์อาหารทดแทน ในรูปแบบของเหลวทดแทนอาหาร 2 มื้อ แล้วทานอาหารปกติ 1 มื้อ โดยได้พลังงานประมาณ 1,200 กิโลแคลลอรี่ต่อวันเท่ากัน ผลหลังจากผ่านไป 12 สัปดาห์ เป็นดังนี้ กลุ่มแรกใช้วิธีควบคุมอาหารสามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ยเพียง 1 -2 ปอนด์ ( 0.45 – 0.9 กิโลกรัม ) เท่านั้น ในขณะที่กลุ่มที่สองใช้วิธีทานผลิตภัณฑ์อาหารทดแทนสามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ยสูงถึง 14 ปอนด์ (6.3 กิโลกรัม) หลังจากนั้นก็เก็บข้อมูลต่อเนื่องไปจนครบ 4 ปี  แล้วเปรียบเทียบในด้านของผลดีต่อโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับความอ้วน เช่น ระดับน้ำตาลในเลือด คอลเลสเตอรอล ความดัน กลุ่มที่ทานอาหารทดแทนวันละ 2 มื้อ มีระดับน้ำตาลในเลือดและตัวเลขอื่น ๆ ในด้านสุขภาพ ที่ดีกว่ากลุ่มแรกอย่างมาก

            นางสาวนันท์นภัส ร่องดุสิต นักโภชนาการประจำศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การที่เราจะสามารถลดน้ำหนักได้นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณแคลอรี่ที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน ถ้าเรารับประทานเกินปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายเราต้องการก็ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินได้

            ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ทดแทนอาหารเป็นตัวเลือกที่น่าจับมองของเหล่าวัยรุ่นที่กำลังสนใจในเรื่องของการลดน้ำหนักเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักที่ถูกวิธีและยังยืนก็คือการควบคุมปริมาณแคลรี่ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย