กระต่ายเนื้อ สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ ด้วยเมนู ‘กระต่ายอบน้ำผึ้ง’
logo ข่าวอัพเดท

กระต่ายเนื้อ สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ ด้วยเมนู ‘กระต่ายอบน้ำผึ้ง’

1,017 ครั้ง
|
07 ก.พ. 2565

กระต่ายเนื้อ สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ ลงทุนน้อย เลี้ยงง่าย ให้กำไรงาม กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ด้วยเมนูยอดฮิต ‘กระต่ายอบน้ำผึ้ง’

 

7 กุมภาพันธ์ 2565 นายอับดุลรอหมาน หลังปูเต๊ะ อายุ 35 ปี ชาว ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล เจ้าของฟาร์มกระต่ายเนื้อ เปิดเผยว่า เมื่อตอนที่ตนเรียนที่อินโดนิเซีย ซึ่งเขากินกระต่ายกัน เพราะเนื้อกระต่ายเป็นยา มีประโยชน์ ตนเลยคิดอยากทำ เลยเอากระต่ายมาเลี้ยง ซึ่งสายพันธุ์ที่ตนเลี้ยง เป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงเพื่อนำมาบริโภค ไม่ใช่สายพันธุ์ที่นำมาเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความสวยงามเพลิดเพลิน กระต่ายเนื้อนั้นมีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว ให้เนื้อที่มาก ที่ตนเลี้ยงในฟาร์มเป็นสายพันธุ์ที่ซื้อมาจากมาเลเซีย เรียกว่า สายพันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์ แคลิฟอเนีย 

 

อีกทั้ง มีลูกผสมภูพาน และPL ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เลือดนิ่งแล้ว โดยซื้อพ่อแม่พันธุ์อายุ 3 เดือนตัวละ 2 พันบาท เมื่อได้ลูกผสม แต่ละสายพันธุ์เมื่ออายุ 4 เดือน จะมีน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม บางคนอาจจะเลี้ยงได้ถึง 4-5 กิโลกรัม และเนื้อกระต่ายในช่วงนี้จะมีความนุ่มละมุน ฉ่ำ ไม่เหนียว ทั้งนี้สามารถนำมาขายได้ กิโลกรัม ละ 350 บาท ตกตัวละ 875 บาท ขณะที่ลูกผสมอายุ 45 วันขายตัวละ 450-500 บาท ซึ่งกระต่ายนิยมผลิตเป็นลูกผสม 3 สายพันธุ์ เพื่อดึงลักษณะดีของแต่ละสายพันธุ์มารวมกัน ทำให้ได้ กระต่ายที่ให้ผลผลิตคุ้มค่า  สำหรับการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ 

 

ข้อดีของการเลี้ยงกระต่ายคือใช้พื้นที่น้อยเพราะตัวเล็ก การจัดการง่าย เลี้ยงไว้ในกรงที่ทำด้วยโครงเหล็กล้อมด้วยตระแกรงลวด พื้นกรงใช้ไม้ระแนงตีเป็นร่อง ยกกรงสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร โดยในกรงมีภาชนะให้น้ำและอาหารอย่างครบถ้วน อาหารที่ใช้เป็นหญ้าเนเปียและอาหารข้น กระต่ายจะมีลูกดกท้องปีละ 6-8 คอก  แต่ละคอกจะให้ลูก 4-14 ตัว ตลาดกระต่ายเนื้อเป็นตลาดที่กำลังได้รับความนิยมตนเริ่มต้นเลี้ยงเพียง 10 ตัว ขณะนี้เลี้ยงมาได้ 10 เดือนมีกระต่ายในฟาร์มประมาณ 100 ตัว ความน่าสนใจตรงที่ ลงทุนต่ำ ทำให้ใช้เวลาคืนทุนไม่นาน สร้างกำไรจากการเลี้ยงได้ง่ายและรวดเร็ว

 

ทั้งนี้ ชิ้นส่วนอื่น อาทิ หนัง ขน หางนำมาทำผลิตภัณฑ์จำหน่ายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ส่วนพวกหู อุ้งเท้า ส่งตลาด Busf ได้อีกด้วย แต่สำหรับฟาร์มตนยังมีไม่มากที่จะส่งตลาด Busf ได้ เนื้อกระต่ายถือเป็นอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ มีคุณค่าทางอาหารสูง ไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ กระต่ายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีของเสียน้อยกว่าสัตว์ชนิดอื่น ในอนาคตเนื้อกระต่ายอาจกลายเป็นทางเลือกใหม่ด้านอาหาร เนื้อกระต่ายมีความนุ่ม ปรุงอาหารรสชาติดี เคี้ยวง่ายไม่เหนียวหรือยุ่ยเกินไป ซึ่งฟาร์มของตนเองนั้นขณะนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะสามารถผลิตเนื้อได้เพียงเดือนละ 5-10 ตัว แต่ในช่วงรอมฎอนประมาณเดือนเม.ย.จะออกได้ประมาณ 100 ตัว ซึ่งรับแบบพรีออเดอร์ ที่กำลังได้รับความนิยมขณะนี้เป็นกระต่ายสมุนไพรอบน้ำผึ้งตัวละ 599 บาท และที่กำลังจะออกสู่ตลาดเดือนรอมฎอนนี้เป็นแกงมัสมั่นกระต่ายคู่กับโรตีเซตละ 100 บาท และสะเต๊ะเนื้อกระต่ายซึ่งกินคู่กับนาซิกาเปะที่เป็นข้าวอัดหั่นเป็นลูกเต๋า รวมทั้งน้ำจิ้มและผักเคียงเซตละ 100 บาทเช่นกัน โดยส่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเปิดทางเลือกสำหรับกระต่ายสวยงามให้กับผู้ที่ชื่นชอบในการเลี้ยงกระต่ายน่ารักไว้ดูเล่น ตัวละ150-200 บาทด้วย สามารถติดต่อได้ที่ นายอับดุลรอหมาน หลังปูเต๊ะ 097-2428443