กรมอนามัยชี้ ยาสีฟันไม่ทำให้ฟันงอก แนะควรดูแลความสะอาดให้ดี

กรมอนามัย - กระทรวงสาธารณสุข ชี้ยาสีฟันอวดอ้างสรรพคุณทำให้ฟันงอกใหม่ได้ ไม่เป็นความจริง พร้อมแนะนำวิธีการดูแลช่องปาก เพื่อสุขภาพที่ดี

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีมีการโฆษณาขายยาสีฟันในสื่ออนไลน์โดยมีการอวดอ้างคุณสมบัติช่วยให้ฟันงอนขึ้นใหม่ได้หลังการใช้ ซึ่งข้อความโฆษณาดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะว่ายาสีฟันเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในช่องปากร่วมกับการแปรงฟันเท่านั้น ไม่ได้มีสรรพคุณทำให้เกิดการงอกใหม่ของฟันได้ เนื่องจากหน่อฟันแท้ของคนเราจะสร้างในขากรรไกรตั้งแต่วัยเด็ก และจะเริ่มขึ้นมาในช่องปากตั้งแต่อายุประมาณ 6 ปี จนครบ 28 ซี่ ตอนอายุประมาณ 12-13 ปี หากผู้บริโภคหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้นอกจากจะเสียเงินเปล่าแล้ว ยังเสียโอกาสในการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปากที่เหมาะสม 

นอกจากนี้ ยังแนะนำยาสีฟันที่เหมาะแก่การใช้ทำความสะอาดช่องปาก ว่ายาสีฟันที่ใช้ควรจะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เนื่องจากฟลูออไรด์ในยาสีฟัน จะมีคุณสมบัติปกป้องฟันจากกรดที่แบคทีเรียในช่องปากปล่อยออกมาขณะจับตัวกับอาหารที่ตกค้างบนผิวฟัน โดยช่วยให้เคลือบฟันแข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวฟันเกิดความเสียหายจากกรดดังกล่าวลดลง นอกจากนี้ยังช่วยให้ฟันบริเวณที่เพิ่งเริ่มเกิดการผุกร่อนกลับมามีสุขภาพดีดังเดิมได้

ด้าน ทพญ.วรางคนา เวชวิธี ผอ.สำนักทันตสาธารณสุข กล่าวว่า ควรแปรงฟันตามหลัก 2-2-2 เนื่องจากเป็นการป้องกันการสูญเสียฟันที่ดีที่สุด โดยมีหลักดังงนี้ 1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละ  2 ครั้ง เช้าและก่อนนอนด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ 2. แปรงฟันนานครั้งละ 2 นาทีขึ้นไป เพื่อให้มั่นใจว่าแปรงฟันได้สะอาดทั่วทั้งปาก ทุกซี่ และทุกด้าน และเป็นการให้เวลาฟลูออไรด์ในยาสีฟันจับกับผิวเคลือบฟันเพื่อป้องกันฟันผุ 3. งดกินอาหารและเครื่องดื่มหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง เพื่อให้ช่องปากสะอาดนานที่สุด 

ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรดูแลการแปรงฟันของเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี อย่างใกล้ชิด โดยบีบยาสีฟันแตะขนแปรงแค่พอเปียก และเช็ดฟองออก ในเด็กอายุ 3-6 ปี ให้บีบยาสีฟันเท่าความกว้างของแปรง โดยให้เด็กแปรงเอง และผู้ปกครองช่วยแปรงซ้ำ ในเด็ก 6 ปีขึ้นไป และผู้ใหญ่ ให้บีบยาสีฟันเท่ากับความยาวขนแปรง ให้เด็กเป็นคนแปรงเอง และผุ้ปกครองคอยตรวจซ้ำ เพื่อสุขภาพฟันและเหงือกที่ดี