วันที่ 11 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาปลอมเอกสารของแพทย์หญิง สมัครทำงานเป็นแพทย์นอกเวลาที่สถานเสริมความงามหลายแห่ง ตรวจสอบพบเคยถูกจับ 3 ครั้ง ศาลสั่งจำคุก 7 ปี พ้นโทษเมื่อเดือน ส.ค. 2564 ถูกจับกุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2564 ประกันตัวออกมากระทำความผิดซ้ำซาก คดีนี้พนักงานสอบสวนส่งฝากขัง คัดค้านประกันตัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. สืบสวน ติดตามการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับ สถานพยาบาลที่ไม่ได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) และผู้ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต (หมอกระเป๋า) เพื่อป้องกันอันตรายอันอาจเกิดกับพี่น้องประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์ พบว่า น.ส.ณัฐชานันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่แอบอ้างนำใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงท่านหนึ่งมาใช้สมัครงานเป็นแพทย์นอกเวลาในสถานเสริมความงาม และ ถูกจับกุมตัว เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2564 ในความผิด ฐาน “ลักทรัพย์, เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น,ปลอมและใช้เอกสารปลอม,ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม,ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” ได้รับการประกันตัว แต่ยังมีพฤติการณ์กระทำความผิดซ้ำแบบเดิม นำใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิงมาปลอมแปลง ตัดต่อใบหน้าของตนเอง ใส่ในใบประกอบวิชาชีพแล้วนำเอกสารดังกล่าว มาใช้สมัครทำงานที่สถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้ง แพทย์หญิงที่ถูกผู้ต้องหานำใบประกอบวิชาชีพไปปลอมแปลงและสถานเสริมความงาม ที่ น.ส.ณัฐชานันท์ ไปสมัครทำงาน มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและจับกุมตัว น.ส.ณัฐชานันท์ ระหว่างนำใบประกอบวิชาชีพที่ปลอมแปลงมาสมัครทำงานที่สถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทอง โดย น.ส.ณัฐชานันท์ ให้การรับสารภาพว่า ได้โพสต์กระทู้ในเว็บไซต์อ้างว่าตนจะเปิดสถานเสริมความงาม ต้องการรับสมัครแพทย์มาทำงาน โดยให้ส่งเอกสารมาให้ทางไลน์ เมื่อได้รับเอกสารจากแพทย์ จะคัดเลือกแพทย์หญิง ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับตน จากนั้นจึงนำเอกสารดังกล่าวมาใช้สมัครทำงานในสถานเสริมความงามในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวนหลายแห่ง
เบื้องต้น การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ใช้คำหรือข้อความอื่นใดที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม”ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐาน “พยายามฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์สิน” ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ,ฐาน “เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท, ฐาน “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” ต้องระวางโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับ 1,000 ถึง 10,000 บาท และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ฐาน “โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.ณัฐชานันท์ เคยถูกดำเนินคดี จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ.2556 กระทำความผิด ฐาน “ร่วมกันนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลและประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม,ปลอมและใช้บัตรประชาชนปลอม ขายหรือสั่งเข้ามาซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต“ ศาลพิพากษา จำคุก 7 ปี ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ.2559 กระทำความผิด ฐาน “ลักทรัพย์,เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น , ปลอมและใช้เอกสารปลอม,ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม,ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม และ ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2564 กระทำความผิด ฐาน “ลักทรัพย์,เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น,ปลอมและใช้เอกสารปลอม,ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม,ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการ สถานเสริมความงาม ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจเสียก่อน โดยสามารถตรวจสอบได้ที่
-โทรสอบถามได้ที่ สำนักสถานพยาบาล หมายเลขโทรศัพท์ 02-193-7999