กมธ.ศาสนาฯ จ่อเรียกสอบ 'นัท นิสามณี' ปมแต่งกายเลียนแบบพระพุทธเจ้า สื่อเพื่อนบ้านตีข่าวด้วย

      จากกรณีดราม่าของยูทูบเบอร์ชื่อดัง นัท นิสามณี เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก สะบัดแปรง แต่งกายเลียนแบบพระพุทธเจ้า เนื่องในวันฮาโลวีน ซึ่งทำให้ชาวเน็ตต่างวิพากย์วิจารณ์กันว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่? 

 

         ล่าสุด นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธาน กรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวในฐานะกรรมาธิการศาสนาฯ มีหน้าที่และอำนาจกระทำกิจการ พิจารณาสอบหา ข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการอุปถัมภ์ ทำนุบำรุงและคุ้มครองศาสนาและโบราณสถาน การอนุรักษ์ และส่งเสริมศิลปะ ขนมธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น วัฒนธรรมประชาธิปไตย ภูมิปัญญาชาวบ้าน เอกลักษณ์ แบบวิถีชีวิตไทย และศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นั้นเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าจะส่งผลถึงการอุปถัมภ์ ทำนุบำรุงและคุ้มครองศาสนา หรือไม่

 

       ซึ่งจากเฟซบุ๊กข้างต้นอาจมีการล้อเลียนที่กระทบต่อหลายศาสนา เช่น พุทธศาสนา คริสต์ศาสนา ศาสนาอิสลาม เป็นต้น จากกรณีดังกล่าวอาจมีประเด็นการแต่งกายเลียนแบบพระ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 208 ที่ระบุว่า ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่า เป็นพระภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

        “เบื้องต้นจะนำเรื่อง นัท นิสามณี เข้าหารือในชั้นอนุกรรมาธิการฯพุทธศาสนาฯ ก่อนที่จะขอมิติคณะกรรมาธิการฯ เพื่อเรียกผู้ที่เป็นเจ้าของ เฟซบุ๊กในชื่อ Nisamanee Lertvorapong และผู้ที่แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้ามาชี้แจงในชั้นกรรมาธิการต่อไป” นายเพชรวรรต กล่าว

 

 

      และดูเหมือนว่าดราม่าประเด็นดังกล่าวจะไม่ได้หยุดแค่เมืองไทย เพราะสื่อประเทศเพื่อนบ้านก็หยิบภาพข่าวดังกล่าวไปนำเสนอเช่นกัน โดยสื่อประเทศเมียนมา แพลตฟอร์ม "myanmarlivethailand" ซึ่งเป็นการเผยแพร่ข่าวสารที่เกิดขึ้นในเมืองไทยและนำเสนอเป็นภาษาเมียนมา ให้กับผู้ที่ใช้ภาษาของประเทศเพื่อนบ้านได้ทราบข่าวประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ในทุกแวดวงสังคม ซึ่งถือเป็นการรายงานข้อมูลประหนึ่งสำนักข่าว และมีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งหลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกับโพสต์ดังกล่าว ที่สื่อให้ทราบว่าประเด็น อ่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องความศรัทธานั้น ไม่ได้ถูกตีแผ่แค่เมืองไทยยังถูกแปลเป็นภาษาประเทศเพื่อนบ้านด้วย

 

      ในขณะที่ "นัท นิสามณี" บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง นอกจากจะออกมาเคลื่อนไหวชี้ว่า วิจารณ์ได้แต่ไม่หยาบนั้น ก็เดินหน้าต่อโพสต์ภาพงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำต่อไป

 

 

 

 

 

ขอบคุณภาพจาก  สะบัดแปรง