“กสทช.” เดินหน้าตัดสัญญาณ อินเทอร์เน็ต-โทรศัพท์ สกัดแก๊งคอลฯ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากรัฐบาลไทย สั่งตัดไฟ-ตัดน้ำมัน 5 จุดชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อสกัดแก๊งคอลเซนเตอร์ จนทำให้ฝั่งเมียนมาประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมัน วันนี้ ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ กสทช.เดินหน้าต่อ เปิดยุทธการทลายสัญญาณอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ ชายแดนอรัญประเทศ ตัดเส้นเลือดใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา

 

ที่ สภ.คลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พลตำรวจโทยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.ร่วมแถลงข่าว เปิด ยุทธการ อรัญ 68 Seal Border ระเบิดสะพานโจร Call center ทลายสัญญาณอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ ตัดเส้นเลือดใหญ่ขบวนการหลอกลวงออนไลน์ โดยร่วมกันตัดสัญญาณฯ จุดสำคัญบริเวณแนวชายแดน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว - ปอยเปต รวม 3 จุด คือ 1.สถานีรถไฟบ้านคลองลึก ตำบลอรัญประเทศฯ 2.เสาโทรศัพท์หลังตลาดเบญจวรรณ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศฯ และ 3.เสาโทรศัพท์ บ้านโคกสะแบง ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศฯ ซึ่งจะทำให้ลดการใช้ซิมบ็อกซ์โทรหลอกลวงคนไทยได้ลดลง หลังสืบทราบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งฐานอยู่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น ใช้สัญญาณโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตจากประเทศไทย สืบสวนพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพใช้ซิมบ็อกซ์ นำไปติดตั้งอยู่ชายแดนฝั่งกัมพูชาในหลายจุด โดยซิมบ็อกซ์จะต้องมีสัญญาณ 2 ส่วน คือ สัญญาณอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อควบคุมการโทรออกโดยใช้สัญญาณโทรศัพท์ของไทยในการโทรหลอกลวงเหยื่อ

 

พลตำรวจโท ยิ่งยศ กล่าวว่า พบจุดที่ตั้งซิมบ็อกซ์อยู่หลายจุด และพบออฟฟิศปล่อยเช่าในปอยเปตหลายแห่ง ซึ่งในออฟฟิศคอลเซนเตอร์อาจจะต้องใช้อินเทอร์เน็ตถึง 100 เมกะบิตต่อเดือน เสียค่าบริการ 300,000 บาท ตรวจสอบแล้วบางส่วนเป็นอินเทอร์เน็ตของไทย จึงประสาน กสทช. ดำเนินการ สั่งให้โอเปอเรเตอร์หรือผู้ให้บริการลดเสาสัญญาณการส่งสัญญาณทางโทรศัพท์แล้ว

 

ด้านนายไตรรัตน์ ยืนยันว่า การล้มเสาสัญญาณลงในวันนี้ หากลดกำลังส่งสัญญาณแล้ว ยืนยันจะไม่รบกวนการใช้โทรศัพท์ของคนไทยที่อยู่ในราชอาณาจักรอย่างแน่นอน เพราะจะนำแผงส่งสัญญาณไปติดตั้งในพื้นที่ชุมชนให้ชาวบ้านได้ใช้

 

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน หลังประชาชนเมียนมา ออกมาประท้วงไทยที่ตัดไฟฟ้า งดส่งน้ำมัน และตัดอินเทอร์เน็ตว่า การประท้วงเป็นเรื่องของเขาที่จะแสดงความไม่พอใจ แต่ไม่สามารถกดดันรัฐบาลไทยได้ เพราะรัฐบาลทำไป เพื่อแก้ปัญหาให้คนไทย เป็นเรื่องที่เขาต้องไปเคลียร์กับรัฐบาลเมียนมา เราทำครั้งนี้เพื่อจะให้ขับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ออกจากพื้นที่ เรายืนยันมาตรการของไทย และยึดปัญหาของประเทศไทยเป็นหลัก ต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้ผลเด็ดขาดที่สุด

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนจะเดินทางไปพญาตองซู วันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ จากนั้นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ จะเดินทางไปปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจอะไร ส่วนจะไปพบและพูดคุยกับใครบ้างนั้นยังไม่ได้กำหนดรายละเอียด

 

ส่วนสถานการณ์ที่ด่านชายแดนอำเภอแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก พบว่ามีชาวเมียนมาจำนวนมากขับรถเข้ามาเติมน้ำมัน และหาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่ฝั่งไทยตลอดทั้งวันจนรถติดยาว หลังจากในเมืองและหมู่บ้านต่าง ๆ เริ่มไม่มีน้ำมันใช้ หรือ ถ้าหากมีใช้ก็จะเก็บไว้ใช้เอง ไม่จำหน่าย มีรายงานว่า รถบนถนนสายหลักในเมืองท่าขี้เหล็กเริ่มออกมาวิ่งบนถนนน้อย เนื่องจากประหยัดน้ำมัน น้ำมันไม่มี และทางการเมียนมาปราบปรามรถเถื่อนที่ไม่มีทะเบียน

 

ส่วนรถบรรทุกน้ำมันบริเวณลานจอดรถพักริมทางเขตพื้นที่ตำบลโป่งงาม ยังมีรถบรรทุกน้ำมันจอดเต็มลานจอดรถ รวมไปถึงที่อำเภอแม่จัน หลังจากไม่สามารถข้ามไปส่งน้ำมันฝั่งเมียนมาได้ โดยคนขับรถบรรทุกน้ำมันทุกคันยังจอดรอคำสั่งว่า จะให้เปลี่ยนแปลงอย่างไร

 

ขณะเดียวกัน ประชาชนเมืองท่าขี้เหล็ก ที่มีเครื่องปั่นไฟ ตั้งแต่ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เริ่มไม่สามารถใช้การได้ เพราะต้องใช้น้ำมันเป็นตัวเดินเครื่อง ซึ่งน้ำมันที่มีก็จำหน่ายจำนวนจำกัด ทำให้ประชาชนเริ่มหาอุปกรณ์มาทดแทน เช่น พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ หรือ โซล่าเซลล์  ซึ่งมีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าตามเขตชายแดนฝั่งไทย มีประชาชนเมืองท่าขี้เหล็กเริ่มมาทยอยซื้อไปและเริ่มทยอยหมด ทำให้อุปกรณ์บางชิ้นที่ใช้ติดตั้งโซลาเซลล์ขาดตลาด ต้องออกไปหาซื้อกันในตัวเมืองเชียงราย มีข้อมูลรายงานว่า ผู้ใช้ไฟฟ้าในเมืองท่าขี้เหล็กได้ ออกมาตรการแบ่งปันการใช้ไฟฟ้า โดยมีตารางการจ่ายไฟให้หมู่บ้านต่าง ๆ แบบเวียนสลับการใช้ตามห้วงเวลา เช่น หมู่บ้านเอ ใช้ไฟตั้งแต่ 06.00 น. ถึง 12.00 น. หมู่บ้าน B ใช้ไฟ ฟ้าตั้งแต่เที่ยงวันถึง 18.00 น.

 

ขณะที่เพจ Tachileik News Agency สื่อท้องถิ่นของประเทศเมียนมา ได้โพสต์สภาพการจราจรเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เป็นภาพรถยนต์จำนวนมาก ติดยาวอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาที่เชื่อมเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา กับ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จะเห็นว่ามีรถจากฝั่งเมืองท่าขี้เหล็กจำนวนมาก ต้องการข้ามมาเติมน้ำมันฝั่ง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังจากน้ำมันเริ่มขาดแคลน แต่รัฐบาลไทยอนุญาตให้เติมน้ำมันใส่รถได้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำถัง หรือ แกลลอนมาใส่น้ำมันข้ามกลับไปยังประเทศเมียนมา

 

ส่วนปั๊มน้ำมันในอำเภอแม่สอด และอำเภอพบพระ จังหวัดตาก พบว่ามีประชาชนเมียนมา ข้ามมาต่อคิวเติมน้ำมันฝั่งไทยจำนวนมาก จนทำให้หลายปั๊ม น้ำมันหมดชั่วคราว คนไทยบางรายได้โพสต์โวยว่า คนไทยเดือดร้อน เพราะน้ำมันหมด 

 

หลังจากรัฐบาลสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่คุมเข้มชายแดน เพื่อป้องกัน และสกัดกั้นการลักลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปในพื้นที่อำเภอพญาตองซูอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง ปรากฎว่าช่วงเย็นวานนี้ (9 ก.พ.) ตำรวจสายตรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารพราน จับกุมตัวนายสัมฤทธิ์ อายุ 38 ปี บริเวณ ฐานปฏิบัติการ ช่องทางต้นยาง บ้านเวียคะดี้ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมรถกระบะสีขาว บรรทุกน้ำมันดีเซลบรรจุในแกลลอนสีน้ำเงิน จำนวน 10 แกลลอน รวม 300 ลิตรอยู่กระบะท้าย สอบสวนนายสัมฤทธิ์ รับสารภาพ ว่า ซื้อน้ำมันดีเซลมาจากปั๊ม ปตท. บริเวณสามแยกสังขละบุรี และจะลักลอบนำน้ำมันดีเซลออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร อ้างว่าจะนำน้ำมันดีเซลไปให้วัด, โรงเรียน และสถานที่สำคัญในพื้นที่ บ้านฮะล็อกคะนี เติมใส่เครื่องปั่นไฟฟ้า เพื่อปั่นไฟฟ้าให้แสงสว่างไว้ใช้งานในยามจำเป็น จึงถูกดำเนินคดีในข้อหา พยายามนำสินค้าออกนอกประเทศโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากร 

 

ขอบคุณภาพจาก : Facebook Tachileik News Agency