“ภูมิธรรม” ลั่น ! ตัดไฟฟ้าได้ผล หลังเมียนมามีการใช้ไฟน้อยลง | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

71 ครั้ง

06 ก.พ. 2568

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากตัดไฟฟ้า 5 จุดคืนแรกเพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซนเตอร์ ปรากฎว่า ทั้งเมียวดี และท่าขี้เหล็ก ยังคงมีแสงไฟส่องสว่าง ขณะที่ ภูมิธรรม ยืนยันมาตรการตัดไฟใช้ได้ผล เมืองชเวโก๊กโก่ ใช้ไฟลดลง

ตัดไฟฟ้า 5 จุดคืนแรก ยังสว่างเหมือนเดิม

นี่เป็นภาพเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ บริเวณใกล้กับเมืองชเวโก๊กโก่ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นหนึ่งใน 5 จุดที่ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้า ระหว่างภาพทางซ้าย เป็นคืนก่อนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะตัดไฟ กับเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ก.พ.) ที่ตัดไฟแล้ว เวลาประมาณ 19.00 น. เหมือนกัน จะเห็นว่า อาคารในชเวโก๊กโก่ ยังมีแสงไฟสว่าง แต่ไม่ได้เปิดแสงไฟที่เป็นสีเหมือนตอนก่อนจะโดนตัดไฟ ซึ่งไฟที่สว่างก็มาจากเครื่องปั่นไฟ และ แผงโซลาเซลล์ขนาดใหญ่

ส่วนฝั่งท่าขี้เหล็กของเมียนมา ตรงข้าม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ทีมข่าวก็บินโดรนสำรวจ พบตามอาคาร บ้านเรือน ก็ยังคงสว่างไสวเหมือนเดิม โดยเฉพาะบริเวณบ่อนกาสิโนและบ้านเรือนก็ยังมีไฟส่องสว่างทั่วไป มีไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้กว่า 90 ซึ่งกระแสไฟส่วนใหญ่ซื้อจาก สปป.ลาว ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การตัดไฟครั้งนี้ อาจไม่ส่งผลกระทบต่อแก๊งคอลเซนเตอร์ที่มีการเตรียมการไว้แล้ว ทั้งเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ และการซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาวมาใช้ แต่คนที่เดือดร้อน คือ ชาวบ้านคนบริสุทธิ์

ตัดส่งน้ำมันกระทบ ท่าขี้เหล็ก ไม่พอใช้

แต่ที่กระทบกับเมืองท่าขี้เหล็ก ก็คือ การตัดน้ำมัน เพราะหลังจากรัฐบาลห้ามส่งน้ำมัน ประชาชนเมืองท่าขี้เหล็ก แห่กันไปซื้อน้ำมันสำรองไว้ใช้กันจำนวนมาก จนทำให้แต่ละปั๊มน้ำมันในเมืองท่าขี้เหล็ก น้ำมันได้ทยอยหมดไปตั้งแต่เมื่อวาน และการจำหน่ายน้ำมันต้องจำหน่ายจำกัดให้แต่ละคน ซึ่งน้ำมันไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะหลายเมืองใช้น้ำมันจากฝั่งไทย ทำให้วันนี้ปั๊มน้ำมันหลายแห่งได้ปิดไป

วันนี้ ยังมีรถน้ำมันจากบริษัทต่าง ๆ ทยอยมาถึงที่อำเภอแม่สาย บางคันเพิ่งทราบข่าวว่า มีคำสั่งไม่ให้รถน้ำมันขับข้ามไปฝั่งเมียนมา ทำให้รถน้ำมันกว่า 20 คัน ต้องจอดนอนรอตามลานจอดรถริมทาง เพื่อรอฟังการติดต่อจากชิปปิ้ง

ทีมข่าวสอบถามคนขับรถน้ำมัน เชื่อว่า น้ำมันในเมืองท่าขี้เหล็กยังไงก็หมด เพราะที่ผ่านมาจะมีรถน้ำมันสลับกันเข้าออกไปลงน้ำมันในฝั่งเมืองท่าขี้เหล็ก แต่ละคันจะเข้ามาเดือนละ 4-5 ครั้ง จะสลับกันเข้าออก แต่ละคันจะบรรจุน้ำมันแก๊ซโซฮอล์ 95 ได้ 50,000-49,000 ลิตรต่อคัน, ดีเซล 43,000 ลิตรต่อคัน ซึ่งปั๊มน้ำมันในเมืองท่าขี้เหล็กแต่ละแห่ง จะกักเก็บน้ำมันได้ประมาณ 200,000 ลิตร ซึ่งรถน้ำมันที่เข้าไปจะเติมในที่กักเก็บน้ำมัน และจะมีรถน้ำมันทางเมียนมา มาถ่ายน้ำมันนำออกไปส่งยังหัวเมืองต่าง ๆ ในประเทศเมียนมา

มีรายงานว่า รถน้ำมันได้มีเอกสารส่งออกทางเมียนมา-ท่าขี้เหล็ก ซึ่งมีหมายให้ลง และข้ามแห่งเดียว ไม่สามารถย้ายน้ำมันไปลงจุดอื่นได้ แต่หากจะเปลี่ยนแปลงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเอกสาร

ปตท.หยุดส่งน้ำมันให้เมียนมา 5 พื้นที่

ขณะที่นายรชา อุทัยจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยถึงกรณี นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งหยุดส่งน้ำมัน ไปเมียนมา รวม 5 พื้นที่ว่า พร้อมปฏิบัติตามนโยบายภาครัฐ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอดูความชัดเจนของแนวทางปฏิบัติ โดย OR จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับน้ำมันที่ส่งออกไปเมียนมา มีปริมาณรวมประมาณ 15-20 ล้านลิตรต่อเดือน โดยลูกค้าจะนำไปจำหน่ายให้กับสถานีบริการน้ำมันในเมียวดีและท่าขี้เหล็ก

ภูมิธรรม ลั่นตัดไฟได้ผล-เมียนมาใช้ไฟน้อยลง

ขณะเดียวกันวันนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปตรวจราชการที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยร่วมประชุมที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก เพื่อติดตาม และกำชับการปฎิบัติงานเกี่ยวกับการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด บริเวณพื้นที่ชายแดน และการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา

นายภูมิธรรม ยอมรับว่า การตัดไฟครั้งนี้ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้าง แต่ กฟภ.บอกว่าหายไป 600 ล้านบาท จากรายได้ขายไฟทั้งหมดรวม 600,000 ล้านบาทต่อปี ก็แค่ 0.1 ส่วนกรณีที่เมียนมา ซื้อไฟฟ้าจากประเทศลาวมาใช้นั้น ถือเป็นสิทธิ์และเป็นอธิปไตยของเขา เราไม่มีสิทธิ์จะบอกว่า ห้ามซื้อจากลาว แต่การที่เขาต้องวิ่งไปหาไฟที่อื่นแสดงว่าเขามีปัญหา

นายภูมิธรรม ยืนยันว่า การตัดไฟฟ้า ได้แจ้งกระทรวงการต่างประเทศ ประสานแจ้งรัฐบาลเมียนมาให้ทราบ และแจ้งคู่สัญญาบริษัทเอกชนที่ขายไฟฟ้าให้กับเมียนมาทราบแล้ว ซึ่งผู้ขายไฟฟ้าก็เข้าใจในการยกเลิกสัญญา ส่วนชเวโก๊กโก่นั้น ทราบว่า ใช้ไฟฟ้าลดลงครึ่งหนึ่ง เห็นได้ชัดว่า มาตรการของรัฐได้ผล ส่วนจังหวัดเมียวดี ที่มีโรงพยาบาล และโรงเรียนจะได้รับผลกระทบนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีผลกระทบ ส่วนระยะยาว ได้แจ้งให้โรงพยาบาลแม่สอด ให้การช่วยเหลือในบางกรณี

ส่วนเรื่องอินเทอร์เน็ต ทาง กสทช.ได้ตัดระบบไปแล้วจำนวนมาก แต่ยังมีบางเสาที่ยังลักลอบ จะเร่งให้ กสทช.ดำเนินการให้เสร็จสิ้น รวมทั้งรื้อเสาที่อยู่ตามป่าข้าวโพด หรือ ที่ส่งสัญญาณไกล ๆ จะต้องถูกรื้อออกภายในสิ้นเดือนนี้

ส่วนเรื่องการตัดน้ำมัน ขณะนี้มีชาวเมียนมาข้ามมาเติมน้ำมันในฝั่งไทย ซึ่งเราต้องตรวจสอบ คือ ให้ใส่ในรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น แต่จะห้ามไม่ให้เติมใส่ถัง หรือ แกลลอนที่พกพามาด้วย เพื่อป้องกันการส่งเสริมให้แก๊งคอลเซนเตอร์นำไปใช้ประโชน์

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35