ตำรวจไซเบอร์ยังคงไล่ติดตามกดดันเพื่อจับกุมตัวแม่ค้าออนไลน์ ที่หลอกขายโทรศัพท์มือถือให้กับน้องอายุ 14 ปี จนเกิดความเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต โดยล่าสุดพบว่าได้หลบหนีออกจากพื้นที่กรุงเทพมหานครไปแล้วเมื่อวานนี้ ขณะที่ ปปง.ได้สั่งอายัดทรัพย์สิน 10 รายการของผู้ต้องหารายนี้แล้ว
ความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวนางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี แม่ค้าออนไลน์ที่หลอกขายโทรศัพท์มือถือให้กับน้อง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จนทำให้น้องเกิดความเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต และศาลได้ออกหมายจับในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดพลตำรวจโทกรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยว่า ตำรวจยังคงเร่งขยายผลเข้าตรวจค้นตามแหล่งที่น่าเชื่อว่า นางสาวพิยดาจะไปกบดานหลายแห่งแต่ยังไม่พบตัว โดยเบาะแสล่าสุดพบว่า ได้หลบหนีออกจากกรุงเทพมหานครไปแล้วเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ และตามข้อมูลทราบว่า นางสาวพิยดานั้นขับรถไม่เป็น จึงเป็นไปได้ว่ามีบุคคลอื่นพาหลบหนี ซึ่งหากพบตัวตำรวจก็จะจับกุมผู้ที่พาผู้ต้องหาหลบหนีคดีด้วย
ส่วนประวัติการต้องโทษ พบว่านางสาวพิยดาเคยถูกจับกุมคดีฉ้อโกงลักษณะเดียวกันตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนในท้องที่จังหวัดปทุมธานีมาแล้ว 1 ครั้ง หลังจากนั้นจะว่าจ้างให้ผู้อื่นเปิดบัญชีธนาคารให้ไม่ต่ำกว่า 29 บัญชี เพื่อใช้ในการหลอกลวง จากนั้นเงินก็จะถูกโอนต่อเข้าบัญชีนางสาวพิยดาทั้งหมดทันที ก่อนจะถูกแปรสภาพไปซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ หรือใช้ลงทุนในชื่อของบุคคลอื่น เพื่อเป็นการซ่อนอำพรางทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้ได้ประสานให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ดำเนินการยึดอายัดและตรวจสอบทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยยังไม่สามารถประเมินมูลค่าทรัพย์สินได้ แต่เบื้องต้นอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนางสาวพิยดากับพวกไว้จำนวน 10 รายการ
ส่วนชาวเน็ตตามไปขุดคุ้ยชีวิตส่วนตัวของนางสาวพิยดา พบว่าได้ก่อเหตุฉ้อโกงแบบเดียวกันนี้มาแล้วกว่า 5 ปี มีผู้เสียหายเกิน 500 คน มีเงินหมุนเวียนในบัญชี 42 ล้านบาท นอกจากนี้ชาวเน็ตยังได้รวบรวมรายชื่อบัญชีที่นางสาวพิยดา ไปจ้างเปิดบัญชีเพื่อรับโอนเงินที่ฉ้อโกง โดยให้ค่าจ้างหัวละ 8,000 บาท พบว่ามีมากถึง 145 บัญชีแล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม