จับตา “บอสพอล” ซ่อนทรัพย์ สับขาหลอก ลุ้นล็อต 2 จ่อโดนเพิ่ม ?

1,829 ครั้ง

23 ต.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

จับตา “บอสพอล” สับขาหลอก ซ่อนทรัพย์สิน หรือที่แท้ใช้ของปลอมมาตลอด พร้อมลุ้นอาจหมายจับเพิ่มล็อต 2

วันที่ 22 ต.ค. 67 ทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ ทนายความ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า จากประเด็นเรื่องนาฬิกาของบอสพอลที่ถูกยึดทรัพย์เป็นของปลอม แล้วเจ้าตัวอาจจะแอบเก็บของแท้ไว้ เป็นสิ่งที่ตนตั้งข้อสงสัยว่าที่ผ่านมาบอสพอลใช้ของปลอมจริงหรือไม่ เชื่อว่ามีการออกหมายจับเพิ่มเติมอย่างแน่นอน

ถกไม่เถียง : จับตา “บอสพอล” ซ่อนทรัพย์ สับขาหลอก

จากการติดตามข่าวทั้งหมดชวนให้คิดว่าอาจเข้าข่ายเป็นการชักชวนลงทุนและฉ้อโกง ทางรอดเดียวของดิไอคอน จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ารายได้มาจากการขายสินค้า ไม่ใช่รายได้จากการหาเครือข่าย ต่อให้สินค้ามีอยู่จริงแต่ทำธุรกิจด้วยการชักชวนสมาชิกแล้วเกิดรายได้ขึ้นก็จะมีโอกาสรอดยาก การอ้างว่าบอสระดับสูงไม่รู้การกระทำของแม่ทีมว่ามีลักษณะที่เสี่ยงผิดกฎหมาย จากหลักฐานบ่งชี้ว่าบอสหลายคนอยู่ในเหตุการณ์ก็ควรจะห้ามปรามไม่ให้มีการทำในลักษณะนี้

ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ทนายความ ให้ความเห็นว่า อยากให้มองในหลากหลายประเด็นว่า อาจจะเป็นของปลอมมาตั้งแต่แรก หรือเพิ่งมาปลอมในภายหลัง ประเด็นที่ชวนคิดคือสถานที่เก็บของมีค่าจะต้องมีความปลอดภัยสูง จะมีเหตุอะไรที่ต้องนำมาซ่อนในห้องเช่า และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะใส่ของปลอมเข้าสังคมชั้นสูง การนำของมาแอบซุกซ่อนก็ค่อนข้างผิดปกติเนื่องจากทำแบบเด่นชัดเกินไป

ส่วนการออกหมายจับเชื่อว่าน่าจะมีเพิ่มอีก อาจมีดาราบางคนถูกออกหมายจับด้วย เนื่องจากเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าแล้วขึ้นเวทีไปพูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับการชักชวนลงทุน ซึ่งอาจมีความผิดตามกฎหมาย หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบว่ามีการเก็บสินค้าเท่ากับจำนวนของผู้ที่ลงทุนไปหรือไม่

ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ วิเคราะห์ว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เชื่อว่าบอสพอลไม่ใช่คนธรรมดา เป็นคนที่วางแผนค่อนข้างซับซ้อน การนำทรัพย์สินไปซ่อนในห้องเช่าเชื่อว่าจงใจให้มีคนรู้ และต้องวิเคราะห์ว่าการซ่อนทรัพย์สินนี้เกิดขึ้นช่วงถูกดำเนินคดีหรือไม่ การสับขาหลอกแบบนี้เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่บอสพอลจะวางแผนไว้

เชื่อว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ถูกชักชวนมาลงทุนจากแม่ทีมคนอื่น การเป็นพรีเซนเตอร์อาจไม่มีความผิด แต่ถ้ามีการชักชวนไปลงทุนนั้นมีความผิดแน่นอน นอกจากนี้ยังมีแม่ทีมบางคนอ้างว่าตัวเองเป็นผู้เสียหายเช่นกัน แต่ความจริงแล้วได้ส่วนแบ่งไปหลายสิบล้าน เผยว่ามีหลักฐานชี้ชัดว่าบอสระดับสูงมีส่วนรู้เห็นในการชักชวนลงทุนที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย

ส่วนการแอบอัดเสียงของบอสพอล ตามหลักกฎหมายอาจไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานเอาผิดได้โดยตรง แต่จะเป็นต้นทางในการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับการข่มขู่เรียกเงินบอสพอล ซึ่งถ้าหากมีหลักฐานอื่นมาประกอบก็จะสามารถเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35