รวบคนร้าย หลอกขาย จยย.ให้สาว 15 นัดเจอตอนตี 3 ก่อนทำร้ายร่างกาย พยายามข่มขืน
logo ข่าวอัพเดท

รวบคนร้าย หลอกขาย จยย.ให้สาว 15 นัดเจอตอนตี 3 ก่อนทำร้ายร่างกาย พยายามข่มขืน

ข่าวอัพเดท : กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือเด็กสาว ที่ถูกคนร้ายหลอกขายรถจักรยานยนต์ แล้วเรียกให้ไปซื้อขายกันที่ย่านสุขสวัสดิ์ หลอกขายจยย,ลวง,สาว15,ทำร้าย,ข่มขืน,ขายรถ,นัดเจอตี3

1,095 ครั้ง
|
23 ก.ย. 2564
       กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือเด็กสาว ที่ถูกคนร้ายหลอกขายรถจักรยานยนต์ แล้วเรียกให้ไปซื้อขายกันที่ย่านสุขสวัสดิ์ ตอนตี 3 ก่อนถูกทำร้ายร่างกายและพยายามจะข่มขืน จนเด็กสาวต้องรีบกระโดดน้ำหลบหนี ตำรวจไปจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้แล้ว
 
        จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือเด็กสาวอายุ 15 ปี ที่ถูกชายคนหนึ่ง ใช้เฟซบุ๊ก ล่อลวงว่าจะขายรถจักรยานยนต์ให้ในราคาถูกจาก 5,000 บาท เหลือ 3,000 บาท แต่หลังเจอกัน ชายคนดังกล่าวได้เข้าทำร้ายร่างกายเด็กสาว จะพาตัวไปข่มขืน เคราะห์ดีที่เด็กสาวไหวตัวทันกระโดดลงคลองหลบหนีเอาตัวรอดได้ และโชคดีที่เจอแท็กซี่พามาส่งที่บ้าน แต่เด็กสาวก็ได้รับบาดเจ็บหนัก กรามแตกทั้ง 2 ข้าง ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ใครเจอตัวคนร้ายก็ขอให้ระวังตัวด้วยเพราะมีปืน พร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เสียหาย เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา
 
      ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ใช้เวลาติดตามเบาะแสไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็ไปพบตัวชายคนนี้ ขณะอาศัยอยู่กับเพื่อนที่บ้านพักในซอยสุขสวัสดิ์ 70 จึงพาตัวไปสอบสวนปากคำ ซึ่งเบื้องต้น เจ้าตัวก็ยอมรับว่าก่อเหตุจริง โดยใช้โทรศัพท์ของเพื่อนที่ขโมยมาไปหลอกเด็กสาวว่า จะขายรถจักรยานยนต์ให้ในราคาถูก ก่อนจะนัดออกมาเจอกันตอนตี 3 ที่ซอยเอกชัย 16 แล้วพาไปที่ซอยสุขสวัสดิ์ 35 อ้างว่าจะพาไปดูรถ แต่เมื่อไปถึงก็ให้เด็กสาวโอนเงินค่ารถ 5,000 บาท แต่เด็กสาวไม่ยอม จึงทำร้ายร่างกายด้วยการชกไปที่ใบหน้า ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืนเพียงต้องการเงินเท่านั้น เนื่องจากตนเองตกงาน
 
       ขณะที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาที่เกี่ยวกับข่มขืนกระทำชำเราได้ เพราะต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายก่อน อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันนี้จะเร่งสอบสวนขยายผล และพาตัวไปชี้จุดเกิดเหตุต่อไป
 
      ด้าน แม่ของน้องผู้เสียหายบอกว่า ลูกสาวได้สติแล้ว แต่ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกสักระยะหนึ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง