ห่วงหญิงตั้งครรภ์ ฉีดวัคซีนน้อย เสี่ยงเสียชีวิตจากโควิดสูงกว่าคนปกติ 2.5 เท่า

          วันที่ 25 ส.ค.64  พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เปิดเผยว่ามีรายงานการเสียชีวิตจากโควิด-19 ของหญิงตั้งครรภ์อย่างต่อเนื่อง จากเป้าหมายให้หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ เข้ารับวัคซีน 500,000 คน ปัจจุบันรับวัคซีนเข็มแรกเพียง 27,519 คน คิดเป็น 5.5% ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่รับวัคซีนครบโดส 2 เข็ม มีเพียง 2,078 คน คิดเป็น 0.4%

 

 

          ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย แสดงความเป็นห่วง จากอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิต ส่วนใหญ่พบในหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ จนถึง 42 สัปดาห์ หมายความว่าเด็กสมบูรณ์พร้อมคลอด โดยที่หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 14 – 28 สัปดาห์ ติดเชื้อมากถึง 27% ตั้งครรภ์ 29-42 สัปดาห์ ติดเชื้อ 30%

 

         ในส่วนของอัตราตาย พบว่าหญิงตั้งครรภ์ 14-28 สัปดาห์ เสียชีวิต  41% และอายุครรภ์ 29-42 สัปดาห์ เสียชีวิต 55% หมายถึงผู้ท่มีอายุครรภ์เกิน 14 สัปดาห์ มีโอกาสสูงที่จะเป็นผู้ติดเชื้อ อาจมีอาการรุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ ได้ย้ำว่าอัตราตายของหญิงตั้งครรภ์ สูงเป็น 2.5 เท่าของคนทั่วไป

 

          ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า เพราะสรีระของหญิงตั้งครรภ์ที่มีมดลูกขยาย ทำให้การหายใจลำบาก เมื่อติดเชื้อจึงมีความเสี่ยงอาการหนักและเสียชีวิต ดังนั้น ทางราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ได้มีจดหมายถึงทุกหน่วยงาน ทุกจังหวัดว่า หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์เป็นต้นไป สามารถฉีดวัคซีนทุกชนิดได้อย่างปลอดภัย และส่งภูมิคุ้มกันให้แก่ลูกในครรภ์ได้ด้วย ปลอดภัยทั้งแม่และลูก การเริ่มฉีดขอให้นับอายุครรภ์ 12 สัปดาห์เป็นต้นไป เพราะถือว่าอวัยวะเด็กในครรภ์สมบูรณ์ สามารถรับการฉีดวัคซีนได้อย่างปลอดภัย