น.ส.กุลยา ตันติเตมิท โฆษกกระทรวงการคลัง คาดว่า โครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ จะได้รับความสนใจจากประชาชน และจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจากโครงการนี้ประมาณ 268,000 ล้านบาท ซึ่งหากรวมเม็ดเงินใน โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 อีก 186,000 ล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 1%
สำหรับเงื่อนไขการลงทะเบียน โครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และต้องไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดย 1 คนจะได้รับสิทธิ 1 โครงการเท่านั้นหากต้องการเปลี่ยนมาใช้สิทธิ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะต้องสละสิทธิโครงการอื่น โดยสามารถเปลี่ยนการเข้าร่วมโครงการได้ 1 ครั้งผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ภายในวันที่ 28 มิ.ย. 64
สำหรับการเปิดลงทะเบียน 4 ล้านสิทธิ จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (21 มิ.ย.64) เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชัน เป๋าตัง และ
www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ถึง 31 ธ.ค. 64 โดยสามารซื้อสินค้าและใช้บริการได้ทั่วไป ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เสริมความงาม ทำผม นวดสปา ยกเว้นห้ามนำไปซื้อ สลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และสินค้ารูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า โดยนำไปใช้ซื้อสินค้าได้จากห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านที่เข้าร่วมโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้
ส่วนเงื่อนการใช้จ่าย แต่ละวันจะนำยอดใช้จ่ายเฉพาะส่วน 5,000 บาทแรก ไปรวมคำนวณเป็นยอดใช้จ่ายสะสมเท่านั้น โดยแบ่งการใช้จ่ายตั้งแต่ 1-40,000 บาท จะได้คืน 10% สูงสุด 4,000 บาท การใช้จ่าย 40,001-60,000 บาท จะได้คืน 15% แต่ไม่เกิน 3,000 บาท รวมสิทธิได้คืนไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน โดยจะได้เงินคืนในรูปแบบของ E-Voucher ทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป และสามารถนำไปใช้ซื้อสินค้ากับร้านค้าบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล ที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มถูกต้อง โดยใช้ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.64 ไม่สามารถโอนออกเป็นเงินสดได้ เนื่องจาก E-Voucher จะใช้จ่ายผ่าน G-Wallet เท่านั้น
+ อ่านเพิ่มเติม