logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

วันแรก ! ประชาชนแห่ลงทะเบียน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ทะลุ 20 ล้านคน | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เรียกว่า นับตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตตั้งแต่ 08.00 น. เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) มีคนแห่ ch7hd news,ch7hdnews,ช่อง7,ช่อง7hd,ch7,ch7hd,ข่าว,news,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวกีฬา,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูย้อนหลัง,ดูทีวี,ดูข่าว,live ข่าว,liveข่าว,ไลฟ์สดทีวี,ไลฟ์สดข่าว,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว7,ถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์,อาร์ม พิพัฒน์,ปุ้ม เปรมสุดา

16,973 ครั้ง
|
02 ส.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เรียกว่า นับตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตตั้งแต่ 08.00 น. เมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) มีคนแห่ไปลงทะเบียนจำนวนมาก เพียงแค่วันแรก มีคนลงทะเบียนแล้วเกินกว่า 18.8 ล้านคน
 
แห่ลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตทะลุ 20 ล้านคน
 
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรก พบว่า 10 นาทีแรกคนเข้าระบบเป็นล้าน จึงทำให้มีการสะดุดของระบบบ้าง ส่วนใครที่มีปัญหา ปรึกษาได้ที่สายด่วน 1111 ซึ่งในวันแรก นับจนถึง 08.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนไปแล้ว 18.8 ล้านคน  โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนจนถึงวันที่ 15 กันยายน 67 
 
ส่วนเรื่องการย้ายทะเบียนบ้านเพื่อความสะดวกในการใช้จ่าย กรณีบางคนทำงานอยู่คนละพื้นที่กับภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านนั้น รัฐบาลยืนยันว่า ไม่ได้แนะนำให้ย้ายทะเบียนบ้าน เพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนทั่วทุกภูมิภาค จึงอยากรณรงค์ หากใครสะดวกกลับบ้านเกิด ก็ขอให้กลับไปใช้จ่าย เพราะมีกรอบการใช้จ่ายมากถึง 6 เดือน ครอบคลุมถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์
 
ส่วนกรณีที่หลายคนกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะรั่วไหล เพราะการลงทะเบียนต้องสแกนบัตรประชาชน ใบหน้า และกรอกเลขบัตรหลังประชาชนนั้น นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า แอปทางรัฐปลอดภัย ซึ่งใช้ระบบยืนยันตัวตนด้วย IAL (Identity Assurance Level) เป็นระบบความปลอดภัยสูงสุดที่รัฐยอมรับ ส่วนระบบชำระเงิน ขณะนี้อยู่ในกระบวนการ เหลือแค่กระบวนการโคดดิงและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งยังอยู่ในกรอบเวลาอยู่และยืนยันสามารถเสร็จทันตามกำหนด 
 
ภูมิธรรม เผย 5 ส.ค.แจงลงทะเบียนร้านค้า
 
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า การลงทะเบียนวันแรก มีข้อขัดข้องบ้าง แต่ก็ดำเนินการไปได้ ซึ่งตัวเลขประชาชนที่ลงทะเบียนในวันแรก สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนว่า กำลังเดือดร้อนหนักจริง ๆ ยืนยันว่าเงินที่แจกไปไม่ใช่เงินแจกเปล่า แต่เป็นเครื่องมือที่จะทำให้ประชาชนเข้าร่วมการกระตุ้นเศรษฐกิจ 
 
ส่วนการแถลงข่าวโครงการดิจิทัลครั้งที่ 2 จะเป็นส่วนของกระทรวงพาณิชย์ จะมีขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ จะทำให้เห็นไทม์ไลน์ที่ชัดขึ้นในส่วนของร้านค้า คาดว่า จะนำร้านค้าเข้าระบบ ประมาณ 2 ล้านร้านค้า มีทั้งร้านค้าปลีก ร้านธงฟ้า รวมถึงหาบเร่แผงลอย เชื่อว่าหลังจากเปิดไทม์ไลน์ชัดเจน จะมีร้านค้าลงทะเบียนเพิ่มมากขึ้น
 
นายกฯ ปลื้มคนแห่ลงทะเบียน จ่อสกัดแอปปลอม
 
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี บอกว่า ยอดลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตวันเดียว 18 ล้านคน ถือว่าเยอะมาก บ่งบอกได้หลายอย่าง ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการใหม่เป็นเรื่องที่ประชาชนตื่นตัวและเข้าใจดีขึ้น ส่วนแอปพลิเคชันก็มีความเสถียรในจุดหนึ่ง ซึ่งเราก็มีวิธีป้องกัน กรณีจะนำเงินดิจิทัลไปแลกเป็นเงินสด ส่วนกรณีแอปปลอม เป็นหน้าที่ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยตำรวจสอบสวนกลาง จะเข้าไปช่วยกันดูแลเรื่องนี้ พร้อมมั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลในแอปพลิเคชันทางรัฐ จะไม่รั่วไหล
 
เศรษฐา ไม่ห่วงหลุดเก้าอี้นายกฯ
 
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยสถานะนายกฯในวันที่ 14 ส.ค.นี้ว่า ตนได้ส่งคำแถลงปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม สำหรับตนที่น่าเป็นห่วงมากกว่า คือ ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ตนไม่อยากคิดไปไกล ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องปรับครม. และยังไม่ได้คิดปรับครม. เพราะระยะเวลาที่เหลืออีกประมาณ 3 ปี แน่นอนว่า คงต้องปรับเปลี่ยนเป็นธรรมดา แต่อย่าเอามาโยงกับเรื่องวันที่ 14 สิงหาคมนี้ หรือกรณีของพรรคก้าวไกล คิดว่าอย่าโยงดีกว่า บางเรื่องไปโยงแล้วซับซ้อน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่อยากให้รัฐมนตรีทุกคนที่พยายามทำงานเต็มที่เกิดความไขว้เขวในเรื่องนี้
 
ก้าวไกล แถลงปมคดียุบพรรค
 
ส่วนคดียุบหรือไม่ยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 7 สิงหาคมนี้นั้น นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ส่วนตัวยังหวังว่า วันที่ 7 สิงหาคมนี้ การตัดสินจะเป็นคุณกับพรรคก้าวไกลไม่ต้องถูกยุบ แต่ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ
 
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงสรุปข้อต่อสู้ในเอกสารคำแถลงปิดคดี ก่อนจะมีการอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรค 7 สิงหาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยคดีนี้ และการยื่นคำร้องในคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมปฏิเสธว่าการเสนอนโยบายแก้ไขมาตรา 112 มิได้เป็นการล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะ กกต. ไม่เคยสั่งว่าห้ามใช้นโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 มาใช้หาเสียง
 
โดยขณะนี้ทางพรรคก้าวไกลมีการแถลงอยู่ นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 
 
กสม.ยื่นป.ป.ช.ฟันเรือนจำ-รพ.ตำรวจเอื้อ ทักษิณ
 
ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า กสม.ได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 กรณีที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องขัง เข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และได้รับการรักษาที่ดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น จึงขอให้ตรวจสอบ 
 
ซึ่งช่วงแรกเข้าพักที่ชั้น 14 เพราะโรงพยาบาลให้ข้อมูลว่า เป็นเพียงชั้นเดียวที่มีห้องว่าง หลังจากนั้นนายทักษิณยังพักที่ห้องพิเศษดังกล่าวมาตลอด โดยชี้แจงว่า นายทักษิณมีภาวะวิกฤตสลับปกติ ซึ่งโรงพยาบาลตำรวจให้นายทักษิณพักรักษาตัวที่ห้องพิเศษต่อเนื่อง โดยเรือนจำฯ ไม่ได้โต้แย้ง จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาล ทำให้นายทักษิณได้รับประโยชน์นอกเหนือกว่าสิทธิที่ควรได้รับ 
 
อีกทั้งเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นวันที่นายทักษิณ ออกจากการควบคุมของเรือนจำฯ นายทักษิณ เดินทางกลับบ้านพักทันที โดยไม่ได้เข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาลแห่งอื่น รวมทั้งเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยไม่มีอาการเจ็บป่วย อันผิดปกติของผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤต จึงมิอาจเชื่อได้ว่า นายทักษิณป่วยจนถึงขนาดต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ นานถึง 181 วัน
 
กสม.มีความเห็นว่า การกระทำของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคล อันอาจเป็นการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งอยู่ในหน้าที่และอำนาจตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กสม.จึงมีมติให้ส่งรายงานผลการตรวจสอบฉบับนี้ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง