พูดถึงช่องทางการขายออนไลน์ในปัจจุบัน เรียกว่าหลากหลายเต็มไปหมดค่ะ ไม่ว่าจะเว็บไซต์ , แพลตฟอร์ม Social Media , E-Commerce
วันนี้โซอี้มาแนะนำ 10 เว็บไซต์ และ แอปพลิเคชั่น ลงขายของออนไลน์ อัพเดทปี 2021 ที่คัดมาแล้วว่าเวิร์ค!! โพสขายสินค้า/บริการได้อย่างปลอดภัย สบายใจ มีระบบการจัดการหลังบ้านให้ พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์มือใหม่ก็สามารถใช้งานได้ทันที
1. Shopee คุ้นหูคุ้นตากันดีกับแอปสีส้มนี้จุดเด่นของ Shopee ก็คือสามารถขายได้ทั้งของมือหนึ่งและมือสอง ส่งสินค้าฟรี หรือสามารถจัดแคมเปญ โปรโมชัน โค้ดส่วนลดในการจูงใจลูกค้าของเราเองได้ จึงทำให้ Shopee เป็นอีกหนึ่งเว็บที่มีอันดับการค้นหาหรือ Search Engine Optimization ที่ดี ที่ทางผู้พัฒนาเว็บมาได้อย่างต่อเนื่อง โดยหากต้องการจะสมัครเพื่อขายหรือซื้อสินค้าก็แค่ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Shopee ลงในเครื่อง หรือสามารถสมัครผ่านทางเว็บไซต์ Shopee ได้เช่นกัน ลงทะเบียนเพื่อทำการยืนยันตัวตนโดยใช้ข้อมูลส่วนตัว เช่น เบอร์โทร อีเมลล์ LINE หรือ Facebook ค่ะ
2. Lazada ในปีนี้ Lazada เป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์อันดับหนึ่งที่มีคนใช้มากที่สุดในประเทศไทย เราสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้แบบฟรีๆ ไม่ต้องลงทุนอะไร ที่สำคัญยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชันที่มีความน่าเชื่อถือมาก มีระบบการจัดส่ง จัดเก็บสินค้าและการจ่ายเงินแบบรัดกุม แถมยังมีโปรโมชันจูงใจให้ลูกค้าซื้อของมาต่อเนื่อง ซึ่งถ้าใครอยากเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการ Lazada ก็เป็นอีกช่องทางที่แนะนำค่ะ ขั้นตอนการสมัคร เพียงลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ Lazada ยืนยันตัวตน ลงรายละเอียดสินค้า ราคา เท่านั้นเองค่า
3. MyShop โซอี้สอนเรื่อง Myshop มาโดยตลอดและแนะนำเลยค่ะว่าให้ทำ เพราะทำฟรี และมีฟีเจอร์ฟรีดีดีมากมายที่ช่วยให้คุณขายของบน LINE ได้ง่ายขึ้น วิธีการสมัคร คุณต้องมีบัญชี LINE OA ก่อนนะคะ และเข้าไปเปิดร้านค้าฟรีๆได้เลยที่ https://linemyshop.com/ ค่ะ
4. KAIDEE เป็นอีกแพลตฟอร์มที่สามารถเปิดร้านขายสินค้าได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทั่วไป มือหนึ่ง มือสอง หรือจะเป็นบ้าน รถ คอนโด ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบราคาและเห็นภาพของสินค้าได้ชัดเจน และขั้นตอนการลงขายสินค้าไม่ยุ่งยาก แค่ไม่กี่นาทีก็ทำให้การฝากขายสินค้าเข้าสู่สายตาลูกค้าได้ ขั้นตอนการสมัคร ก็แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น KAIDEE ลงในสมาร์ทโฟน หรือจะสมัครผ่านทางเว็บไซต์ก็ได้ค่ะ
5. eBay เป็นอีกเว็บไซต์ที่พัฒนาจากแพลตฟอร์มประมูลสินค้า สู่การขาย สามารถขายได้ทั้งมือหนึ่งและมือสอง อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบหลังบ้านอย่างต่อเนื่องในการวิเคราะห์ตลาด เทรนด์โลก ช่วยออกแบบพฤติกรรมของผู้บริโภคและกำหนดราคาขายได้อย่างเหมาะสมปลีก และยังมีระบบ AI ในการจัดการคลังสินค้า ทำให้ระบบสามารถรู้ใจผู้ซื้อ ทำโปรโมชันและเมนูสินค้าต่าง ๆ ได้ถูกจุด แต่ eBay แม้จะสมัครเป็นผู้ขายได้ฟรีแต่จะมีเก็บค่าธรรมเนียมด้วยถ้าสินค้าถูกขายออกไป ที่สำคัญจะต้องมีบัตรเครดิตด้วย เพื่อใช้ในการสมัคร ลงทะเบียนเป็นผู้ขาย
6. Alibaba เว็บไซต์นี้เหมาะเป็นพิเศษสำหรับธุรกิจ B2B ที่เน้นการขายสินค้าในจำนวนมากๆ ยกโหล ยกแพ็ก หรือ “ขายส่ง” โดยเป็นสินค้าที่ผลิตเอง ระบุสต็อกสินค้าได้ กรณีสินค้าหมด หรือผลิตไม่ทันขาย ทำ Quotation หรือใบเสนอราคาได้ อีกทั้งสามารถติดต่อกับพ่อค้าคนกลางได้ในวงกว้าง และตัวเว็บไซต์ของ Alibaba เองก็ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นขายของออนไลน์ ไม่มีการแบนไอดี นอกจากทำผิดร้ายแรงจริง ๆ ส่วนขั้นตอนการสมัคร ก็ทำได้โดยการเข้าเว็บไซต์ Alibaba จากนั้นไปที่ Join Now กรอกข้อมูลรายละเอียดส่วนตัวเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นคลิ๊กที่ Create Account เลือกประเภทของสินค้า พร้อมกับเขียนคำอธิบายลงไปสั้น ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจ อัพโหลดรูปถ่าย ขนาด และรุ่นของสินค้า พร้อมทั้งเลือกรูปแบบการชำระเงินให้เรียบร้อย ใส่รายละเอียดที่ตั้งของสถานที่จัดส่งสินค้า หรือที่อยู่ผู้ขายถือเป็นอันเรียบร้อย
7. PANTIP MARKET เป็นแพลตฟอร์มขายของที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้น แต่ถือเป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าที่สามารถฝากขายสินค้ามือสอง ที่มีตั้งแต่อสังหา พระเครื่อง กล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่ของสะสม ตลอดจนยังสามารถขายงาน Service ได้ด้วย เช่น งานเขียน งานรับถ่ายรูป เป็นต้น โดยผู้ขายจะต้องลงทะเบียนโดย Pantip Account หรือสมัครเพื่อยืนยันตัวตนผ่าน Facebook Google หรือ Twitter ก็ได้
8. Shopify หนึ่งในแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เป็นแพลตฟอร์มที่มีตัวเลือกให้ใช้บริการมากมาย ตรงตามความต้องการของเจ้าของธุรกิจ สามารถทดลองใช้งานได้ฟรี 14 วัน มีเครื่องมือในการจัดการและทำการตลาดออนไลน์ที่มีคุณภาพ ที่สำคัญยังมีภาษาให้เลือกมากกว่า 50 ภาษา ช่วยให้ทำการขายสินค้ากกับลูกค้าชาวต่างชาติได้สะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/CpEbV3LxZBY