ทำการตลาดให้เป็นเรื่องง่าย เครื่องมือขาย บนโลกออนไลน์ | เงินทองของจริง

วันนี้ยังคงพูดคุยอยู่กับคุณทิพย์ มัณฑิตา จินดา เจ้าของเพจ Digital Tips Academy จะมาพูดคุยเรื่องสื่อโซเชียลมีเดียกันต่อ โดยมีเครื่องมือทำธุรกิจอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญเหมือนกัน นั้นคือเครื่องมือการขายบน Fecebook กับ Instagram เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

 

อย่างที่ทราบกันดีว่า 2 ทั้งแพลตฟอร์มนั้น ถูกสร้างมาจากบริษัทเดียวกัน เป็นแพลตฟอร์มที่มีอิทธิพลต่อผู้คนอย่างมาก รวมถึงประเทศไทย หากดูจากข้อมูลจำนวนผู้ใช้แล้ว จะเห็นได้ว่า Fecebook นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศไทย ทางฝั่ง Instagram ถึงจะมีผู้ใช้งานไม่มากเท่า Fecebook แต่ยังอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่รวบรวมไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานจำนวนมาก

 

หากถามถึงเรื่องความเหมือนและความแตกต่าง ทั้ง 2 แพลตฟอร์ม Fecebook และ Instagram มีการมุ่งเน้นการเชื่อมโยงกับผู้คน ซึ่งเป็นจุดเด่นของ 2 แพลตฟอร์มนี้

 

การตลาดออนไลน์ดีอย่างไร ?

 

1. การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคดิจิทัล โดย Fecebook และ Instagram ถือเป็นสิ่งจำเป็นมากต่อการทำตลาดออนไลน์ เนื่องด้วย Fecebook เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้คนมีความคุ้นชิน สามารถโพสต์คอนเทนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี 

 

2. การตลาดออนไลน์ เป็นรูปแบบที่สื่อสารได้ทันที เพราะยังสามารถสื่อสารกับผู้ซื้อและผู้ขายได้โดยง่าย สามารถเห็นฟีดแบ็ก หรือความสนใจของลูกค้าได้ทันที ปรับเปลี่ยนการตลาดได้ตลอดเวลาตามความสนใจของลูกค้าได้ทันที

 

3. มีการวัดและประเมินผลได้อย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันการทำตลาดออนไลน์สามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลกันได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รวยชั่วโมง แม้กระทั่ง 5 นาที ก็สามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลการขายได้

 

ซึ่งทั้ง 2 แพลตฟอร์ม อย่าง Fecebook และ Instagram นั้น มีความแตกต่างของคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

 

อย่างการทำการตลาดออนไลน์บน Instagram นั้นต้องมีการคำนึงถึงเรื่อง Visual เป็นหลัก ดูแล้วสบายหู สบายตา ส่วน Fecebook นั้น มีความต้องการเนื้อหา รายละเอียด และรวมถึงสามารถรองรับได้หลาย Platform ซึ่ง Fecebook และ Instagram นั้นมีความสำคัญต่อการทำการตลาดออนไลน์ทั้งคู่ 

 

การทำการตลาดแบบ Social Marketting คือการทำตลาดแบบสร้างความรู้ ความเชื่อมั่น แบ่งปันเรื่องราวของแบรนด์ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากต่อการทำความรู้จักต่อผู้บริโภคได้ดีขึ้น ถือเป็นหัวใจสำคัญของ Social Marketting รวมถึง Influencer ที่เป็นบุคคลที่ 3 เข้ามารองรับสินค้า และกระจายความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค แต่สิ่งที่ขาดไปไม่ได้อีกอย่างคือ การสร้างเนื้อหาที่ดี เหมาะสมกับผู้บริโภค สร้างความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์ในระยะยาว