ย่าเผย ‘ไอ้แหบ’ เคยบ่นอยากติดคุกซ้ำ - ‘สมศักดิ์’ เข้มจับตาบุคคลอันตรายหลังพ้นโทษ

นครราชสีมา-ย่าของนายแหบ ผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิง 8 ขวบ ยอมรับว่า หลานชายไม่มีความสุขหลังพ้นโทษ เคยบ่นอยากติดคุกอีกรอบ ขณะที่ครอบครัวเหยื่อ เรียกร้องให้ประหารชีวิตผู้ต้องหา เพราะเชื่อว่าไม่สามารถฟื้นฟูจิตใจให้กลับสู่สังคมได้

ตำรวจ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เตรียมนำตัว นายอนุวัฒน์ ผลจะโปะ หรือ แหบ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหา ข่มขืนฆ่าเด็กหญิงวัย 8 ปี ไปส่งศาลจังหวัดนครราชสีมา หลังยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อวานนี้ (12 ก.พ. 64)

ตลอดคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า นายแหบ ไม่มีภาวะโศกเศร้าหรือซึมเศร้า ยังนอนหลับพักผ่อนและรับประทานอาหารได้ตามปกติ 

ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลจาก นางสมจิตร อายุ 77 ปี ย่าของนายแหบ ยอมรับว่า หลานชายเคยต้องโทษหลายครั้ง แต่กลับไม่รู้สึกกลัวกับการถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ครั้งล่าสุดที่พ้นโทษออกมา รู้สึกไม่มีความสุขเพราะอยู่ข้างนอกไม่มีงานทำ อยากกลับไปติดคุกอีก ส่วนคดีล่าสุด ส่วนตัวเสียใจมาก เนื่องจากผู้เสียหายและครอบครัว ถือเป็นญาติห่างๆกัน

นางสมจิตร ยังเปิดเผยประวัติของนายแหบว่า พ่อแม่แยกทางกัน นายแหบเคยไปอยู่กับแม่ แต่อยู่ได้ไม่นานก็ไปอยู่กับพ่อ กระทั่งตัดสินใจมาอยู่กับย่า ใน อ.ปักธงชัย โดยนายแหบเป็นคนไม่มีการมีงานทำเป็นหลักแหล่ง รับจ้างขายแรงงานเล็กๆน้อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเตร็ดเตร่ไปมาในชุมชน และไปนั่งดื่มกินสุรากับพรรคพวกรุ่นราวคราวเดียวกัน

ด้าน นางรัตน์ (นามสมมุติ ) แม่เด็กหญิงผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่ขอให้อภัยกับการกระทำอันโหดร้ายผิดมนุษย์ของนายแหบ เรียกร้องให้รับโทษประหารชีวิตสถานเดียว เพราะนายแหบพ้นโทษคดีเก่าไม่นานก็ออกมาก่อเหตุซ้ำ จึงชัดเจนว่าไม่สามารถฟื้นฟูจิตใจให้กลับสู่สังคมได้ 

ขณะที่บ้านของผู้เสียชีวิต ครอบครัวได้จัดงานบำเพ็ญศุล ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยมีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงมาร่วมงานจำนวนมาก เนื่องจากน้องเป็นเด็กน่ารักของผู้ใหญ่ในชุมชนทุกคน และหลายคนยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่ปล่อยให้บุคคลอันตรายอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งหนี้

จากกรณีนายแหบ ทำให้เกิดกระแสสังคมตั้งคำถามว่า ทางการจะดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มผู้พ้นโทษในคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ หลังพ้นโทษออกมาแล้ว ยังมีพฤติกรรมก่อเหตุซ้ำซ้อน 

สำหรับกรณีพฤติกรรมของบุคคลอันตรายเหล่านี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังผู้ต้องหาพ้นโทษ จะให้ศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน หรือ JSOC คอยจับตากลุ่มผู้พ้นโทษในการปรับตัวคืนสู่สังคม โดยเฉพาะกลุ่มคดี ปล้น ฆ่า ข่มขืน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และผู้ต้องโทษอาจมีพฤติกรรมทำผิดซ้ำ

สำหรับคดีของนายแหบ จากข้อมูลทางจิตแพทย์พบว่า กลุ่มก่อคดีข่มขืนเด็ก จัดเป็นกลุ่มมีปัญหาทางจิต ซึ่งรักษาได้ยาก ในประเทศที่เจริญแล้ว จะมีการติดกำไล EM ตลอดชีวิต เพื่อจับตาเป็นกรณีพิเศษไม่ให้ก่อเหตุซ้ำ อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย อาจต้องมีการแก้ไขหรือเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/xIZEsqURujo