สมาคมฯ หารือร่วมผู้แทน บีจี-การท่าเรือ ชี้แจงระเบียบ ACL รอบแบ่งกลุ่ม

สำหรับการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก จะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เมื่อวานนี้ (5 ก.พ. 64) เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลมีการชี้แจงเรื่องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ สมาคมฯ จัดประชุมผู้แทนจาก สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ สโมสรการท่าเรือ เอฟซี เพื่อหารือเกี่ยวกับการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มของเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงชี้แจงเงื่อนไขต่างๆ หากประสงค์จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในเดือนเมษายนนี้

การประชุมครั้งนี้นำโดย คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ พร้อมด้วย คุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด, คุณปิยภัทร สโรบล รองเลขาธิการสมาคมฯ ฝ่ายประสานงานต่างประเทศ, คุณปิยศักดิ์ ภูมิจิตร กรรมการผู้จัดการสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, คุณธนากร ปันทวังกูร ผู้อำนวยการสำนักบริหารและการสื่อสาร/เลขาธิการสโมสรสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ดร.องอาจ ก่อสินค้า ผู้จัดการสโมสรการท่าเรือเอฟซี, เจ้าหน้าที่สมาคมฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด

โดย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ กล่าวว่า หลังจากที่สโมสรตัวแทนประเทศไทยได้ทราบถึงผลการจับฉลากแบ่งสาย และเข้าร่วมการสัมมนากับเอเอฟซีผ่านระบบวีดีโอ คอนเฟอเรนซ์ไปแล้วเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา วันนี้สมาคมฯ และไทยลีก จึงเชิญผู้แทนสโมสรที่อยู่ในรอบแบ่งกลุ่ม มาหารือถึงระเบียบการแข่งขันที่สำคัญ รวมไปถึงเงื่อนไขหากต้องการเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันของกลุ่มนั้นๆ และจะมีการหารือกับสโมสรที่เตรียมตัวในรอบเพลย์ออฟต่อไป

โดยทางเอเอฟซีได้กำหนดช่วงเวลา ให้กับประเทศสมาชิกที่มีความสนใจจะเป็นเจ้าภาพของกลุ่ม แจ้งไปยังเอเอฟซี ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 และเอเอฟซีจะพิจารณาตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ไม่เกินวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 เบื้องต้นทั้งสองสโมสร มีความเห็นให้สมาคมฯ ยื่นความประสงค์ ในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้

ทั้งนี้เอเอฟซีได้แจ้งไว้ในหนังสือ ด้วยว่า ประเทศสมาชิกที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในรอบแบ่งกลุ่มของเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในเดือนเมษายนนี้ จะมีโอกาสได้รับการพิจารณาให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 2 ที่มีกำหนดแข่งขันให้ต้องจบลงภายในเดือนมิถุนายนนี้เช่นกัน

สำหรับประเทศสมาชิกที่สนใจก็ต้องแสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันระหว่าง สโมสร สมาคมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์การจัดการแข่งขันระดับนานาชาติที่ไม่ใช่เพียงเรื่องศักยภาพในการจัดการแข่งขันฟุตบอล แต่รวมไปถึงมาตรการ และการป้องกันโรคที่ปลอดภัยเช่นเดียวกัน