กรณีคลิปที่เป็นไวรัลในขณะนี้ เพราะเป็นคลิปที่จะทำให้คนที่ได้ชมร้อง อีหยังวะ แบบนี้ก็ได้เหรอ ซึ่งเฟซบุ๊กแฟนเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ version2 by kim ได้แชร์คลิปของผู้ใช้ Tiktok รายหนึ่ง ซึ่งถ่ายเหตุการณ์ขณะคุณลุงท่านหนึ่ง แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นธรรมดา เข้าไปขอเบิกถอนเงินสด จำนวน 6 ล้านบาท ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง กทม. แต่พนักงานธนาคารกลับพูดจาเสียงดังคล้ายตะคอกใส่ จนทำให้ตอนนี้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล
โดยเพจดังกล่าวได้ระบุว่า "ธนาคารอะไรวะสีชมพูมีพนักงานบริการแบบนี้ด้วยเหรอ เอ้าอีนี่พูดดีๆ ไม่เป็น บอกลุงดีๆ ไม่เป็นหรอ หางเสียงก็ไม่มี แอปพลิเคชันก็กาก ล่มทั้งวัน จะเลิกใช้จริงๆ แล้วนะอีธนาคารนี้ ธนาคารอื่นก็อย่าหาทำแบบนี้เด้อ ทุเรศค่ะ ถามกลับมาได้ 6 ล้าน ถอนออกไปทำอะไรเดี๋ยวได้ดัง แชร์ไปๆ ก็ลุงเขาไม่รู้ว่าต้องแจ้งล่วงหน้านี่"
ทั้งนี้ บรรยากาศในคลิปจะเห็นว่า มีพนักงานชาย เข้ามาสอบถามคุณลุงเกี่ยวกับการถอนเงินดังกล่าว และได้มีเสียงพนักงานผู้หญิงพูดแทรกขึ้นมาว่า “ 6 ล้านที่ลุงอยากถอนนั้น ลุงจะเอาไปทำอะไร ” ก่อนที่พนักงานหญิงจะถามย้ำอีกครั้งว่า “จะเอาไปไหน ตอนนี้ไม่มีเงิน ต้องแจ้งล่วงหน้าถึงจะเบิกได้ ตอนนี้ไม่มีเงินสดพอ”
โดยประเด็นหลักที่กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้อยู่ที่คุณลุงแต่งตัวธรรมดาแล้วมาขอเบิกเงิน 6 ล้านบาท แต่กลับเป็นประเด็นที่ว่า ทำไมพนักงานธนาคารถึงต้องพูดเสียงดังไร้หางเสียงอย่างไม่เหมาะสมแบบนี้
งานนี้ทำเอาชาวเน็ตเสียงแตก ฝ่ายหนึ่งก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการบริการของพนักงานดังกล่าว ซึ่งบางคนก็เข้ามาคอมเมนท์ประมาณว่า พนักงานหญิงพูดจาแรงเกินไป ธนาคารควรอบรมกิริยามารยาทพนักงาน และไม่ควรถามว่าเอาเงินไปทำอะไรเพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ที่สำคัญเพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณลุง หากมีผู้ไม่ประสงค์ดีที่อาจจะรู้ว่าคุณลุงมีเงินเป็นล้าน จากการตระโกนเสียงดังของพนักงาน ซึ่งในกรณีถอนเงินหลักล้านแบบนี้ควรจะเชิญคุณลุงเข้าไปคุยในห้องแยกเพื่อความปลอดภัยของคุณลุงหรือไม่
แต่ก็ยังมีชาวเน็ตอีกบางกลุ่ม ที่มีความเห็นที่แตกต่างไป โดยมองว่า เหตุที่พนักงานหญิงพูดเสียงดังอาจจะเป็นเพราะคุณลุงอายุมากแล้วหูอาจจะได้ยินไม่ชัด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติที่แพทย์ หรือพยาบาลมักจะพูดเสียงดังกับคนไข้ที่มีอาการหูตึง
ทั้งนี้ การที่จะถอนเงินสดมากกว่า 2 ล้านบาทจะต้องมีเอกสารยื่นต่อธนาคารแห่งชาติ ซึ่งคุณจะต้องมีการติดต่อบอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาที่คุณจะทำธุรกรรมก่อน เพราะธนาคารบางสาขา โดยเฉพาะต่างจังหวัด ไม่ได้สำรองเงินไว้ก่อน
ล่าสุด ธนาคารออมสินได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวสรุปใจความได้ว่า ธนาคารได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและขอชี้แจงว่า ลูกค้าในคลิปเข้ามาใช้บริการสาขาห้วยขวางวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยประสงค์ขอถอนเงินสดจำนวนมาก เนื่องจากลูกค้าท่านนี้เป็นลูกค้าประจำของสาขา และมีความคุ้นเคยกันดีกับพนักงาน โดยครอบครัวของลูกค้าได้ฝากฝังให้พนักงานสาขาช่วยระมัดระวังให้ด้วย หากจะมาถอนเงิน เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน
ประกอบกับลูกค้าเป็นผู้สูงวัย มีข้อจำกัดเรื่องการได้ยินและความเข้าใจ การสนทนาจึงเสียงดังกว่าปกติ โดยธนาคารได้มอบหมายให้ผู้บริหารธนาคารออมสินเขตและผู้จัดการสาขา เข้าเยี่ยมและทำความเข้าใจกับลูกค้า จากการพูดคุยลูกค้าไม่ได้ติดใจใดๆ ต่อการบริการ
สำหรับกรณีที่ลูกค้าต้องการถอนเงินจำนวนมาก จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้า เพื่อเตรียมเงินสด เนื่องจากแต่ละสาขามีสำรองเงินสด เพื่อให้บริการในวงเงินจำกัด ทั้งนี้ธนาคารได้กำชับพนักงานให้ระมัดระวังน้ำเสียงและการใช้คำพูดการให้บริการลูกค้าแล้ว พร้อมนำไปปรับปรุงพัฒนาการให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม การถอนเงินจำนวนมากขนาดนี้สำหรับผู้สูงอายุ ต้องพึงระวังมิจฉาชีพให้ดี เพราะมีข่าวผู้สูงอายุถูกหลอกให้ถอนเงินอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น หากมีใครมายื่นข้อเสนออะไรก็ตาม เช่น ขอยืมเงินลงทุน แล้วจะให้ผลตอบแทนโดยแลกกับเงินในบัญชีของคุณ ขอให้ตั้งสมมติฐานไว้ก่อนเลยว่า เขาอาจจะเป็นมิจฉาชีพปลอมตัวมา ดังนั้น ก่อนที่เราจะถอนจะต้องปรึกษาคนใกล้ตัวหรือที่ไว้ใจได้ ก่อนที่จะตัดสินใจถอนเงินนั้นออกมา หรือต่อให้ถอนเงินออกมาเพื่อใช้เองก็ตาม การถอนเงินจำนวนมากขนาดนี้เพียงคนเดียวก็ควรที่จะมีคนที่ไว้ใจได้มาเป็นเพื่อน เผื่อกรณีที่ไม่คาดคิด
สำหรับข้อถกเถียงที่ว่าพนักงานธนาคารสามารถถามจุดประสงค์ของการถอนเงิน อย่างในคลิปได้หรือไม่นั้น ก็เคยมีข่าวของคุณยายท่านหนึ่งที่จังหวัดอุดรธานี ที่เกือบจะถูกมิจฉาชีพหลอกถอนเงินจำนวนมาก เพื่อซื้อล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 แต่คุณยายก็รอดมาได้เนื่องจากความช่วยเหลือของพนักงานธนาคารที่สอบถามคุณยายว่าจะถอนเงินมากขนาดนี้ไปทำอะไร ซึ่งคุณยายก็ได้เล่าให้ฟัง พนักงานจึงได้เตือนว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพ ก่อนจะโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ จึงรอดมาได้
ดังนั้น การที่พนักงานถามผู้สูงอายุถึงจุดประสงค์การถอนเงินสดครั้งละมากๆ นั้น ก็อาจจะช่วยป้องกันผู้สูงอายุถูกหลอกได้อีกทางหนึ่ง แต่ในกรณีของคลิปดังกล่าว ถึงจะให้เหตุผลว่าคุณลุงหูตึงจึงต้องพูดดัง แต่ถ้าพนักงานพูดจาให้น่ารักขึ้นกว่านี้ มีหางเสียงคะขาอีกสักหน่อย ก็คงจะไม่เกิดดราม่าแบบนี้นั่นเอง