อัพเดตประเด็นที่หลายคนบอกว่าเบื่อ หลายคนบอกว่า อยากรู้ว่าตอนนี้คืบหน้าถึงไหนแล้วกับกรณีของลุงพล วันนี้เรามีอัพเดตสั้นๆ มาเล่าให้ฟัง
- ผบ.ตร.ฝากถึงคนร้ายคดีน้องชมพู่ ถ้าเหนื่อยมาจับเข่าคุยกันได้
สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 มกราคม 2564 ที่ สน.บางเสาธง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงผลความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีน้องชมพู่ว่า สัปดาห์นี้ได้รับทราบจากชุดสืบสวนสอบสวนว่าจะสรุปเรื่องการแปลผลเครื่องจับเท็จ หากจะแปลผลออกมาและมีความเห็นอย่างไร ทางทีมสืบสวนสอบสวนคงจะมารายงานให้ฟัง
ทั้งนี้เป็นเอกสิทธิ์ของทีมสืบสวนสอบสวนด้วย เพราะเป็นอำนาจหน้าที่เขา อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่าในสัปดาห์นี้ ยังไม่สามารถออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอฟังความเห็นจากทีมทำงานก่อน “ผมไม่ได้รู้อะไรดีไปกว่าทีมสืบสวนสอบสวน”
เมื่อถามว่ายังไม่มีวี่แววใช่หรือไม่? ทางพล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า คำว่า “วี่แวว” อย่าพูดอย่างนั้นดีกว่า เอาเป็นว่า อาทิตย์นี้ออกหมายจับไหม ส่วนตัวผมมองว่าไม่มี ใครที่ลุ้นอยู่ก็ให้ลุ้นต่อไป ถามต่อถึงเปอร์เซ็นต์ในคดีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผมตอบไปครั้งหนึ่งแล้วว่าแผนการเดิมเราวางไว้เกิน 100 เปอร์เซ็นของแผนเดิมไปแล้ว
ถามอีกว่า ฝากอะไรถึงผู้ก่อเหตุหรือไม่? พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า บาปบุญคุณโทษจะเชื่อหรือไม่ก็สุดแท้ แต่จะหนีเรื่องพวกนี้ไปไม่ได้ อาจจะหนีได้ชั่วครั้งชั่วคราว ถ้าวันไหนคิดว่าไม่อยากหนี และเหนื่อยแล้วก็มานั่งจับเข่าคุยกันดีกว่าว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ฝากถึงพวกคอยลุ้นให้ลุ้นกันต่อเพราะเชื่อว่าสัปดาห์นี้ยังไม่มีการออกหมายจับใครอย่างแน่นอน
- "ทนายษิทรา" เตรียมไปบ้านกกกอก "ลุงพล" ติดต่อให้ลงไปช่วย
ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า "สัปดาห์หน้าผมจะลงไปบ้านกกกอกนะครับ เนื่องจากลุงพลติดต่อมาหลายครั้ง ขอให้ผมลงไปช่วยคดีน้องชมพู่ เนื่องจากมีข่าวลือมาว่า ตำรวจอาจใช้เครื่องจับเท็จเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ในฐานะทนายผมยืนยันเลยนะครับ ว่าในศาล เครื่องจับเท็จไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการใช้เป็นหลักฐาน เนื่องจากมีความคลาดเคลื่อนเยอะ
ผมก็เหมือนกับทุกคน ที่อยากรู้ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุทำให้น้องชมพู่เสียชีวิต อ่านตามหลักฐานนิติเวชก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าน้องจะหลงป่าจนเกิดความสูญเสีย ที่สำคัญถ้าไม่มีหลักฐานชัดเจน มีแต่ความระแวงสงสัย เราอาจกำลังสร้างเหยื่ออีกคนในการใส่ร้ายผู้อื่นว่าเป็นฆาตกร
หลักในการทำคดีของผมคือ ไม่มีใครสมควรได้รับโทษในความผิดที่ไม่ได้ทำ ผมรู้ว่าทุกคนเบื่อกับคดีนี้มาก แต่ผมไม่อาจปล่อยผ่านได้จริงๆ เดี๋ยวจะลงพื้นที่และตรวจสอบดู ค่อยตัดสินใจอีกครั้งว่าจะรับทำคดีหรือไม่อย่างไรครับ
ส่วนนิสัยของลุงพลไม่เกี่ยวอะไรกับความจริงที่เกิดขึ้นในคดีนะครับ ต่อให้ลุงพลน็อตหลุดต่อยนักข่าว หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ก็ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นฆาตกร ความรัก ความชื่นชม ของแฟนคลับและแอนตี้ไม่มีผลอะไรกับคดีทั้งนั้น อยากให้แยกแยะตรงนี้กันก่อน ผมจะเชื่อว่าลุงพลทำ เมื่อเจ้าหน้าที่พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือมาเอาผิดแกครับ”
+ อ่านเพิ่มเติม