‘หนี้นอกระบบ’ ทางออกที่เลี่ยงยากของใครหลายคนที่ประสบปัญทางการเงิน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องใดก็ตาม หากคุณกำลังมีความคิดที่จะกู้อยู่ล่ะก็ ขอให้ฟังข่าวที่กำลังจะเล่าให้ฟังให้ดี เพราะว่าทางออกนั้นอาจไม่สวยหรูอย่างที่คิด
เมื่อมีคลิปหญิงสาวถูกนายทุนเงินกู้ทวงหนี้โหด ทำร้ายร่างกายด้วยการจิกหัวลากผลักลงกับพื้นท่ามกลางผู้คนในบริเวณสนามฟุตบอล จากนั้นใช้ปืนบีบีกัน ตบเข้าที่ใบหน้าหญิงสาวอย่างจังหลายครั้ง อีกทั้งยังบังคับให้ก้มกราบเท้า ก่อนที่จะใช้เท้าเหยียบเข้าที่ศีรษะพร้อมเตะเข้าที่ใบหน้าอีกหลายครั้ง จนล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนที่จะมีตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งกำลังเตะฟุตบอลอยู่ขณะนั้น เข้าไปช่วยเหลือเอาไว้ได้
ภายหลัง คือ น้องเอ (นามสมมติ) ประกอบอาชีพเป็นพีอาร์ อายุ 19 ปี ซึ่งผู้ก่อเหตุคือ นายธเนศ เปล่งขำ หรือ แพร อายุ 42 ปี นายทุนเงินกู้ชาวกรุงเทพมหานคร โดยตำรวจสภ.เมืองขอนแก่นเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยนายแพรได้ทำร้ายร่างกายน้องเอ จนได้รับบาดเจ็บใบหน้าบวมปูดร่างกายเขียวช้ำไปทั้งตัว ในเบื้องต้นตำรวจได้คุมตัวนายธเนศส่งพนักงานสอบสวน และแจ้งข้อหา ทำให้ตกใจกลัวและเปรียบเทียบปรับเงิน 1,000 บาท ก่อนปล่อยตัวไป ต่อมาน้องเอผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่สภ.เมืองขอนแก่น
ล่าสุด พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ส่วนการทำร้ายร่างกายสาหัส รักษาตัวกี่วัน ต้องรอแพทย์ลงความเห็นรอผลแพทย์ประมาณ 45 วัน ส่วนการกู้ยืมเงินนั้น ก็จะมีการตรวจสอบว่า นายแพร เป็นนายทุนเงินกู้หรือไม่ ถ้าปล่อยกู้ คิดดอกเบี้ยในอัตราที่แพงกว่ากฎหมายกำหนดก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
ทั้งนี้ น้องเอได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโหนกระแสอย่างหมดเปลือกว่า รู้จักนายแพรผ่านเฟซบุ๊กว่านายแพรเป็นนายทุนเงินกู้ โดยตอนนั้นเธอต้องการกู้มาเพื่อเป็นค่าเทอม ซึ่งกู้ก้อนแรกมา 10,000 บาท ในวันที่ 29 กรกฎาคม และปิดยอดคืนเงินทั้งหมดในวันที่ 31 กรกฎาคม จำนวน 13,200 บาท เท่ากับดอกเบี้ยแค่ 3 วัน 3,200 บาท ต่อมาได้ยืมจำนวน 40,000 บาท และ 80,000 บาท รวมเป็น 120,000 บาทตามลำดับ ซึ่งตอนแรกนายแพรให้จ่ายเป็นงวด 5 วันจ่าย 11,000 บาท จึงขอต่อรองจ่ายเดือนละ 5,000 ซึ่งนายแพรไม่ยอม แล้วได้มาทวงถามจากยายของเธอ ก่อนที่จะมาเกิดเหตุดังกล่าว
โดย นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ผู้ตรวจการอัยการ เปิดเผยว่า นายแพรมีความผิดดังนี้
- เปิดกิจการให้กู้เงินโดยไม่ได้รับอนุญาต
- เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
- ทวงหนี้ที่ไม่ได้ทวงกับลูกหนี้
- ทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง
- ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนอาการสาหัส
ซึ่งโทษรวมแล้วน่าจะจำคุกไม่น้อยกว่า 15 ปี ตามอัตราโทษสูงสุด ปรับประมาณ 2-3 แสนบาท และที่สำคัญผู้หญิงที่มากับนายแพร ซึ่งปรากฎในคลิปจะต้องโดนดำเนินคดีด้วยในฐานสมรู้ร่วมคิด
นี่ก็เป็นความคืบหน้าทั้งหมดของข่าวนี้ ทีนี้เรามาดูเรื่องของการทวงหนี้กันบ้าง โดยรายการรอดไปด้วยกันเคยเล่าให้คุณผู้ชมฟังแล้ว เกี่ยวกับพ.ร.บ.ทวงถามหนี้ ปี 2558 ซึ่ง สิ่งที่เจ้าหนี้สามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายนั่นก็คือ
1.เจ้าหนี้ห้ามทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกหนี้ ยกเว้น สามี ภรรยา บุพการี หรือผู้สืบสันดาน ของลูกหนี้ เป็นความผิดตามพ.ร.บ.การทวงถามหนี้มาตรา 8 วงเล็บ 2 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
2.เจ้าหนี้ทวงถามหนี้ได้เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ ในเวลา 08.00-20.00 น. ส่วนวันหยุดราชการ เวลา 08.00-18.00 น.
และที่สำคัญเลยคือ 3.เจ้าหนี้สามารถทวงถามได้ไม่เกินวันละ 1 ครั้งเท่านั้น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ