'ตูน บอดี้สแลม' ป่วยหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท 'ก้อย' โพสต์ภาพส่งมินิฮาร์ท จะคอยเป็นยาใจ
logo ข่าววันใหม่

'ตูน บอดี้สแลม' ป่วยหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท 'ก้อย' โพสต์ภาพส่งมินิฮาร์ท จะคอยเป็นยาใจ

ข่าววันใหม่ : วันที่ 14 ธ.ค. คณะแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นำโดยพันเอกหญิงปริยนันทน์ จารุจินดา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แถลงอาการป่ว ตูนบอดี้สแลม,ตูนบอดี้สแลมป่วย,หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท,ก้อยรัชวิน,ตูนก้อย

2,314 ครั้ง
|
15 ธ.ค. 2563
วันที่ 14 ธ.ค. คณะแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นำโดยพันเอกหญิงปริยนันทน์ จารุจินดา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แถลงอาการป่วยของ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม นักร้องชื่อดัง หลังมีอาการกระดูกคอกดทับเส้นประสาท ทำให้แขนซ้ายมีอาการชา นิ้วมือซ้ายบังคับไม่ได้เป็นบางนิ้ว และเข้ารับการรักษาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 13 ธ.ค.
 
 
พันเอกหญิงปริยนันทน์ เปิดเผยว่า ตูนมีอาการปวดต้นคอร้าว ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. ขณะที่พักผ่อนอยู่ที่ จ.ภูเก็ต กับก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ ภรรยา เข้ารักษาที่โรงพยาบาลในภูเก็ต แต่อาการไม่ดีขึ้น จนคืนวันที่ 13 ธ.ค. จึงนำตัวส่งเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า อาการของตูนคือหมอนรองกระดูกคอข้อที่ 6 และ 7 กดทับเส้นประสาท ซึ่งตูนเคยเป็นครั้งหนึ่งตอนวิ่งก้าวคนละก้าวจากเบตง-เชียงราย เมื่อ 3-4 ปีก่อน ซึ่งแพทย์ดูแลจนหายเรียบร้อย ตอนนั้นหมอนรองกระดูกเสื่อม 10% ตอนนี้ขึ้นมาเป็น 20% ทำให้มีอาการมากขึ้น
 
 
ขณะที่ พันเอกทิพชาติ บุณยรัตพันธุ์ ผู้อำนวยการกองออร์โทปิดิกส์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดทำให้นิ้วมือซ้ายอ่อนแรง 50% พร้อมมีอาการชาที่มือซ้าย จากภาพ MRI พบว่ามีหมอนรองกระดูก ต้นคอข้อที่ C6, C7 และข้อที่ C7 T1 มีหมอนรองกระดูกต้นคอเบียดโดนเส้นประสาท โดยเฉพาะบริเวณข้างซ้ายอยู่ 2 ข้อ เป็นสาเหตุทำให้มืออ่อนกำลังลง
 
 
คณะแพทย์มีความเห็นว่าให้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยจะรักษาด้วยการให้ยาลดการอักเสบ ทำกายภาพบำบัดรักษา 1-2 สัปดาห์ ลองแบบไม่ผ่าตัดก่อน รักษาด้วยการดึงคอ ไม่ให้กดทับเส้นประสาท ถ้าหลังจากนี้ยังเป็นมากขึ้นก็จะผ่าตัด มีระยะพักฟื้น 2 เดือน พยายามใช้วิธีไม่ผ่าตัดไปก่อน แต่สิ่งสำคัญคือการพักผ่อน ลดการเคลื่อนไหวที่ต้นคอ
 
 
พันเอกหญิงปริยนันทน์ กล่าวอีกว่า คงไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ต้องพักการขยับคอ ถ้ายังขยับ ทำให้อาการอักเสบไม่หาย ส่วนมีผลต่อเสียงร้องมั้ย อาจจะมีผลกระทบบ้างในลักษณะท่าทางร้องเพลง ไม่อยากให้ตูนมีการขยับคอมาก แม้กระทั่งอนาคตไกล ๆ ด้วย สไตล์การร้องเพลงอาจจะต้องมีการเปลี่ยนไปบ้าง คือไม่ถึงกับห้ามถ้าทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีหลังจาก 2 เดือนนี้แล้ว คงค่อย ๆ ทำกายภาพ พยายามให้กลับมาเหมือนเดิมมากที่สุด
 
 
แต่ท่าที่มันเอ็กซ์ตรีมมาก ๆ ในอนาคตคงต้องงดเพื่อไม่ให้มันกลับมาเป็นซ้ำอีก เมื่ออธิบายตรงนี้แล้วคนไข้ก็ยอมรับได้ แต่ตูนก็คือตูน อนาคตตูนก็เต็มที่อยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของแพทย์ที่ต้องคอยดูแลตูนต่อไป ส่วนจะส่งผลต่อการวิ่งหรือไม่ อยู่ที่ผลการรักษาในช่วง 2 เดือนนี้ ซึ่งท่าที่แพทย์ห้ามอย่างมากคือการโยกคอเยอะ ๆ ขอรอดูหลังจากนี้ 2 อาทิตย์ เรื่องคอนเสิร์ตถ้าดีขึ้นหลังจากนี้งานคอนเสิร์ตเบา ๆ น่าจะพอได้ แต่ไม่สามารถโยกศีรษะได้เยอะ ตอนนี้ตูนกำลังใจดีมาก เรื่องกำลังใจการรักษาดีเยี่ยม
 
 
ส่วนเรื่องเสียงนั้น ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำเสียง แต่สไตล์ความร็อกต้องเปลี่ยนห้ามขยับคอเยอะ ตูนยอมรับได้ ทีมแพทย์มีขั้นตอนรักษาอย่างดี มั่นใจมากว่าจะดูแลตูนให้ดีที่สุด
 
 
ต่อมา ก้อย รัชวิน ได้โพสต์อินสตาแกรมให้กำลังใจสามี ระบุว่า เวลามีน้อย...น้อยจริง ๆ ค่ะ แต่งงานกันไป 2 อาทิตย์ ไปฮันนีมูนเสร็จ แล้วก็มานอนโรงพยาบาลต่อ... ความสุขอยู่กับเราไม่นาน ความทุกข์ก็เช่นกัน ไม่เป็นไรนะ เค้าจะคอยเป็นยาใจให้ตัวเองหายไว ๆ อยู่โซฟาข้าง ๆ นี่แหละ หันมาก็เจอ
 
 
ปล.มืออีกข้างอ่อนแรง แต่อีกมือนึงยังส่งมินิฮาร์ทได้อยู่น้าาา ส่งกำลังใจให้พี่ตูนกันนะคะ #TogetherForeverKT"
 
 
 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/TkW8fJOHlBY

ข่าวที่เกี่ยวข้อง