จากกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค เรียกร้องพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้วิจารณญาณตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆได้ภายใน 1 เดือน
"ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ท่านต้องใช้วิจารณญาณที่จะปฏิเสธที่จะไม่กลับมาเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าท่านคิดว่ายังเอาอยู่สถานการณ์ต้องดีขึ้นภายใน 1 เดือนนับจากวันนี้ ก่อนวันที่ 19 และเราจะรู้เอง โดยนักเรียนนักศึกษามีความเข้าใจมากขึ้นและม็อบไม่มาล้อมสภาฯ แล้วก็อยู่ขึ้นอยู่กับว่านายกมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาแต่ละด้านได้มากน้อยแค่ไหน หาก 1 เดือนทำไม่ได้ ท่านต้องพิจารณา ทำใจว่างๆอย่ายึดติด" นายมงคลกิตติ์ กล่าว
ทำให้นายสิระ เจนจาคะ จากพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า รู้สึกงงกับสิ่งที่นายมงคลกิตติ์ออกมาพูดเช่นนี้ และพฤติกรรมที่ผ่านมาของนายมงคลกิตติ์ ก็สร้างแต่เรื่อง เช่น พกสารก่อระเบิดเข้าสภา ออกมาแสดงตัวอยากเป็นรัฐมนตรี จึงขอแนะนำให้ นายมงคลกิตติ์ ไปตักนํ้าใส่กระโหลกชะโงกดูเงา หันกลับไปมองตัวเองบ้าง พร้อมแนะให้นายมงคลกิตติ์ ไปถามตัวเองก่อนว่าสมควรลาออกจาก ส.ส.มากกว่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากรัฐมนตรีหรือไม่
พร้อมตั้งคำถามว่า นายมงคลกิตติ์ต้องการผลประโยชน์อะไรหรือไม่ ที่ออกมาเรียกร้องเช่นนี้ หรือเพราะนายมงคลกิตติ์เงินหมด เนื่องจากบริจาคเงินเดือน ส.ส.ให้ในสถานการณ์โควิดไปแล้ว ซึ่งหากนายมงคลกิตติ์เงินหมดจริง ก็ติดต่อมาบอกผมได้ จะช่วยดูแลให้
หลังจากนั้นรายงานว่าทันทีที่ นายสิระแถลงข่าวเสร็จ นายมงคลกิตติ์ ได้โทรหานายสิระทันทีแต่นายสิระไม่รับ ซึ่งนายมงคลกิตติ์ก็ยังไม่หยุดโทรและส่งข้อความไปหานายสิระว่า "ถ้าแน่จริงมาเจอกัน" จนนายสิระตัดสินใจปิดเครื่อง ก่อนไปทำภารกิจอื่นข้างนอกรัฐสภา
แต่นายมงคลกิตติ์ ยังไม่หยุดตามหาในสภา จนกระทั่งมี ส.ส.พรรคเล็กกังวลว่า จะมีเรื่องกันในสภาฯ เพราะนายมงคลกิตติ์ ของขึ้นระบุเลยว่า จะไปดักต่อย นายสิระที่ทางออกอาคารรัฐสภา จนมีผู้สื่อข่าวส่วนหนึ่งไปดักรอ แต่ก็ไม่เหตุเกิดขึ้น เพราะนายสิระได้ออกจากอาคารรัฐสภาไปแล้ว
จนล่าสุด นายมงคลกิตติ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ไอ้สิระ กูเจอมึงที่ไหน กูจะเอาให้ฟันร่วงหมดปาก รู้จักกูน้อยไป" โดยมี ส.ส.พรรคเล็ก เข้ามากดไลค์ข้อความนายมงคลกิตติ์ด้วย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้โทรไปสอบถามนายสิระ ถึงกรณีที่เกิดขึ้นนายสิระ ตอบว่า "ผมได้เห็นข้อความดังกล่าวที่นายมงคลกิตติ์โพสต์แล้ว และเตรียมดำเนินคดีในข้อหาข่มขู่ ให้สังคมไปตัดสินเอาเองว่าคนที่จะมาเป็น ส.ส.มีวุฒิภาวะแบบนี้ได้อย่างไร"
นอกจากนี้นายมงคลกิตติ์ ยังได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กอีกว่า "ผมยอมรับผมมันเลือดนักเลง ผมเป็นคนรักความยุติธรรม ไม่ชอบเห็นใครถูกรังแก ไม่เคยข่มเหงใครก่อน รักพวกพ้อง แต่ผมก็ไม่เคย เก็บส่วยบ่อน ตู้ม้า ตู้สล๊อต เข้าตัว มีแต่หาวิธีนำรายได้เข้ารัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชน" ซึ่งก็ไม่ทราบว่าต้องการจะสื่อถึงใคร
ทั้งนี้ ล่าสุดทั้ง 2 คน ได้เข้าไปพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้เข้าพร้อมกัน นายชวน บอกว่า เรื่องนี้กระทบภาพพจน์ของสภา ได้ขอร้องว่าอย่าให้เกิดความรุนแรงขึ้น
นายมงคลกิตติ์ บอกว่า ได้รับปากนายชวนแล้วว่าจะไม่เกิดเรื่องใดๆ ในสภาฯ จากนี้จะให้ทนายไปฟ้องนายสิระ ข้อหาหมิ่นประมาท หากนายสิระมาขอโทษก็จบ และปฏิเสธว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่การแสดงละคร เพื่อบิดเบือนเรื่องการชุมนุมของนักเรียนนักศึกษา
+ อ่านเพิ่มเติม