บช.น.แถลงจับกุมแกนนำเพิ่ม 8 ราย รวมทั้งหมดจับกุมดำเนินคดีแกนนำม็อบเยาวชนปลดแอก 11 ราย
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น. ฐานะโฆษกบช.น. แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกุมผู้ชุมนุมว่า ด้วยวันที่ 19 - 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง บช.น. ได้ทำการจับกุมแกนนำจัดกิจกรรมชุมนุมต่างๆ ในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการจับกุมตามหมายจับศาลอาญา มีรายละเอียด ดังนี้
1.กรณีการจัดกิจกรรม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ ปกป้องประชาธิปไตย” เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่าน เพื่อเรียกร้องในประเด็นต่าง ๆ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บางส่วนของการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.ชนะสงคราม ต่อมาปรากฏหลักฐานตามสมควรว่า นายอานนท์ นำภา หนึ่งในผู้ปราศรัย ได้กระทำความผิดอาญา เป็นกรณีที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับและศาลได้ออกหมายจับตามกรณีดังกล่าวโดย ได้จับกุมตัว นายอานนท์ นำภา เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 11 ส.ค.63 ในข้อหา 1.กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนฯ
2.เป็นผู้ร่วมจัดการชุมนุมไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะฯ
3.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ
4.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงฯ
จากนั้นนำตัวส่ง สน.ชนะสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญา
กรณีต่อมาการจัดกิจกรรมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาเพื่อเรียกร้องในประเด็นต่าง ๆ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งในการจัดกิจกรรมมีการกระทำผิดกฎหมายนั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์ โดยปรากฏพยานหลักฐานตามสมควรว่ามีแกนนำหลายรายได้กระทำความผิดอาญา เป็นกรณีที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับและศาลได้ออกหมายจับตามกรณีดังกล่าว โดยได้มีการจับกุมแกนนำในห้วงก่อนหน้านี้ไปแล้ว จำนวน 3 ราย คือ นายภาณุพงศ์ จาดนอก, นายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ เมื่อวันที่ 19 - 20 ส.ค.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวแกนนำตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 11 ส.ค.63 เพิ่มเติมอีก จำนวน 8 ราย ได้แก่ นางสุวรรณา ตาลเหล็ก , นายบารมี ชัยรัตน์ , นายกรกช แสงเย็นพันธ์ , นายทศพร สินสมบุญ , นายเดชาธร บำรุงเมือง , นายธานี สะสม , นายณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์ , นายธนายุทธ ณ อยุธยา
โดยเป็นการจับกุมในข้อหา
1.ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนฯ
2.ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ
3.ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคฯ
4.ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจรฯ
5.ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่นหรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรฯ
6.ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนนฯ
7.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ (ทุกรายยกเว้น นายทศพร สินสมบุญ)
8.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงฯ (เฉพาะนายทศพรสินสมบุญ)นำตัวส่ง สน.สำราญราษฎร์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญา
"บช.น. ขอเรียนให้ทราบว่า การดำเนินคดีและการจับกุมแกนนำจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายของผู้ถูกจับกุม ได้ให้แพทย์ตรวจร่างกาย แจ้งสิทธิ และควบคุมตัวตามกฎหมาย" รองผบช.น. กล่าว
เมื่อถามว่าทำไมไม่ดำเนินคดีตอนมี่แกนนำจัดกิจกรรมมอบตัว 19 ส.ค.ที่มานั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการดำเนินโดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายติดต่อประสานเข้ามามอบตัวแล้ว ส่วนกรณีการชุมนุมวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมายังไม่มีการออกมาจับกุมแต่อย่างใด