ทองคำถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัย ที่ราคามักจะปรับขึ้น ในเวลาที่เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ยิ่งในช่วงที่ผ่านมาจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นร้อนแรงเป็นประวัติการณ์ เรียกได้ว่าเป็นยุคทองแพง
และเพราะความแพงของทองคำ ทองจึงเป็นสิ่งยอดฮิตที่เหล่ามิจฉาชีพมักจะนำทองปลอมไปหลอกขาย ทั้งที่ร้านทองและคนที่อยากซื้อทองราคาถูก ซึ่งนับวันมิจฉาชีพก็ยิ่งมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมากขึ้น
อย่างล่าสุดร้านทองที่ชลบุรี สองสามีภรรยาเจ้าของร้านถูกแก๊งมิจฉาชีพ นำทองปลอมมาจำนำ โดยสลับเปลี่ยนกันมาทั้งคนแก่ คนไทย คนลาว เป็นเวลารวม 1 เดือนกว่า กว่าเจ้าของร้านทองจะรู้ตัวก็สูญเงินไปกว่า 9 ล้านบาท รวมทองปลอมน้ำหนักกว่า 376 บาท
โดยทองปลอมที่แก๊งมิจฉาชีพนี้นำมาจำนำ เจ้าของร้านบอกว่าเหมือนจริงมาก แต่เมื่อสังเกตว่าทองเป็นลายเดิม ๆ น้ำหนักเดิม ๆ และลูกค้าหน้าเดิม ๆ วนเวียนมา จึงตัดสินใจนำทองมากรีดตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนพบว่าเป็นทองชุบ ไส้เงิน แต่ตะขอและสร้อยทองบางข้อเป็นทองจริง
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยกับทีมข่าวถึงกลโกงของมิจฉาชีพในการผลิตทองเก๊ให้ทีมข่าวของเราฟังว่า ปัจจุบันจะมีวัตถุอยู่ 5 ชนิด ที่นำมายัดไส้ใส่ทองปลอม ซึ่งด้านนอกจะเป็นทองแท้ แต่ด้านในจะยัดด้วยวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่งใน 5 อย่างนี้ นั่นก็คือ เงิน, ทองแดง, ตะกั่ว, ทองเหลือง และนิกเกิล
ถ้าทองรูปพรรรณเส้นใด ชุบมาบางๆ และทางร้านใช้วิธีตะไบจากด้านนอกของทองรูปพรรณ จะตรวจสอบเจอทันทีว่าเป็นทองปลอม แต่ถ้าชุบหนาๆ ก็จะตรวจสอบได้ยากมาก
ขณะที่ ที่มาที่ไปของทองปลอมที่สังเกตได้ยากอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ ด้านนอกชุบทองมาหนามาก แต่ข้างในใส่วัสดุอื่น เช่น เงิน, นิกเกิล, สร้อย, กำไล เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะตะไบลึกเข้าไปขนาดไหน มันก็จะเจอแต่เนื้อทอง ซึ่งจะดูยากมาก
และที่ทองปลอมสมัยนี้เนียนมากก็คือ บริเวณห่วง หรือตะขอ จะมีการปลอมโลโก้ของร้านทองที่มีชื่อเสียง โดยผู้ประกอบการร้านทอง หรือพนักงานร้านทองที่มีประสบการณ์น้อยๆ ไปส่องดูตรงตะขอและพบโลโก้ร้านทอง เขาก็จะเข้าใจไปแล้วว่า นี่คือทองแท้ ซึ่งหลายครั้งที่ตรงตะขอเป็นทองแท้จริง แต่ตรงตัวเส้นนั้นไม่ใช่
+ อ่านเพิ่มเติม