ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นของ 'ปลานิล' ติดคำค้นท็อป 5 ของกูเกิ้ล วันนี้เราลองมาดูเรื่องราวของปลานิลกัน ปลาบ้านๆ ธรรมดาๆ ที่เขาพูดถึงกันอยู่นี้ เอาไปเลี้ยง เอาไปทำประโยชน์อะไรได้บ้าง จากข้อมูลของกรมประมง ระบุว่า ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 2508 เป็นต้นมา เป็นปลาจำพวกกินพืช เลี้ยงง่าย โตเร็ว มีความอดทนและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ออกลูกดก รสชาติดีคนนิยมบริโภค จึงเป็นปลาอีกชนิดที่คนนิยมเลี้ยง
จากการเช็กราคาล่าสุดจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์พบว่า ราคาขายปลีกปลานิล 1 กิโลกรัมอยู่ที่ประมาณ 50-80 บาท
เราเอาปลานิลไปทำอะไรกินได้บ้าง อย่างที่รู้กันว่าเป็นปลาที่มีเนื้อมากและมีรสดี นิยมนำไปทำอาหาร เมนูเด็ดจากปลานิล เช่น ปลานิลทอดกระเทียม, ปลานิลนึ่งซีอิ๊ว, ปลานิลนึ่งมะนาว, ต้มยำปลานิล, ปลานิลราดพริก, ฉู่ฉี่ปลานิล, ปลานิลย่างเกลือ, เมี่ยงปลานิล, ปลานิลลุยสวน เป็นต้น
ทีนี้ ถ้าเราจะเริ่มต้นเลี้ยงปลานิล ต้องทำอย่างไรล่ะ?
ต้องเริ่มตั้งแต่การเตรียมบ่อเพาะพันธุ์ มีทั้งแบบบ่อดิน, บ่อปูนซีเมนต์ หรือถ้าไม่มีที่ดิน ก็สามารถเลี้ยงในกระชัง ซึ่งมีเทคนิคในการคัดเลือกพันธุ์ปลา โดยจะเลือกเลี้ยงเฉพาะปลาเพศผู้ เพราะจะโตเร็วกว่าเพศเมีย ใช้ระยะเวลาเลี้ยงประมาณ 6 เดือนเท่านั้น
สำหรับอาหารของปลานิลนั้น เราสามารถให้ได้หลายอย่าง เช่น รำ ปลายข้าว กากมะพร้าว มันสำปะหลังหั่นต้มให้สุก สาหร่าย ผักตบชวาสับให้ละเอียด หรือจะเศษอาหารที่เหลือจากโรงครัว ร้านอาหาร เลือกได้ว่าปลานิลเป็นปลาที่เลี้ยงง่ายและใช้ต้นทุนต่ำเลยทีเดียว
โดยต้นทุนในการเลี้ยงปลานิลต่อ 1 กระชังจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท แต่สามารถขายได้กระชังหนึ่งประมาณ 40,000-50,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งปลานิลจะขายส่งอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 48-50 บาท แต่ถ้าขายปลีกได้ กำไรก็จะดีเป็นเท่าตัวเลย
เห็นอย่างนี้แล้ว การเลี้ยงปลานิล ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจให้กับหลายๆคน โดยเฉพาะในยุคโควิดนี้ เพราะเป็นปลาที่ตลาดผู้บริโภคยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนต่ำ ขายได้ราคาดี ไม่มีอุปสรรคเรื่องโรคระบาด และปัจจุบันยังมีการส่งออกปลานิลจากไทยไปยังต่างประเทศทั้ง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อิตาลี ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าการเลี้ยงปลานิลเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทำให้คุณมีรายได้ที่มั่นคงได้เช่นกัน
+ อ่านเพิ่มเติม