สถานการณการการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย ล่าสุด เมื่อวานนี้ (11 มี.ค. 63) พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย
เมื่อวานนี้ นพ.โอภาส การย์กาวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประธานแถลงการ พร้อม นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงข้อมูล พบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพิ่ม 6 ราย
รายที่1 เป็นชายไทย อายุ 21 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้ารับการรักษาตัวเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ด้วยอาการไข้ มีน้ำมูก ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในสังกัด กรุงเทพมหานคร
รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 40 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจค้นในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เริ่มป่วยเมื่อ 7 มีนาคม และเข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ขณะนี้รักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชน
รายที่3 เป็นชายไทย อายุ 25 ปี พนักงานบริษัทเอกชน พบมีการเดินทางไปหลายพื้นที่และมีการร่วมประชุมกับชาวต่างชาติบ่อย เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ขณะนี้ทำการรักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร
รายที่4 เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี มีประวัติเดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พบมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
รายที่ 5 เป็นชายไทย อายุ 40 ปี มีประวัติเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเอกชน
รายที่ 6 เป็นชาย ชาวสิงคโปร์ อายุ 36 ปี เจ้าของกิจการร้านอาหารในประเทศไทย มีประวัติพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบ่อย เริ่มป่วยเมื่อ 6 มีนาคม ขณะนี้รักษาตัวอยู่สถาบันบำราศนราดูร
ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ป่วยติดชื้อในไทย รวมทั้งสิ้น 59 ราย รักษาตัวหายแล้ว 34 ราย ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล 24 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสอบสวนโรค 4848 ราย
หลังจากที่สุพรรณบุรี ได้ออกประกาศ แถลงการณ์ จังหวัดสุพรรณบุรี ฉบับที่ 1 ว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อ ไวรัส โควิด-19 จำนวน 1 ราย ขณะนี้ ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาในกรุงเทพ และเฝ้าระวังผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง 3 ราย และผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำ 3 ราย โดยทั้ง 6 รายนั้น ยังไม่พบว่าได้ติดเชื้อ และได้เข้ามาตรการเฝ้าระวัง 14 วัน กักตัวอยู่ในบ้านพักของตนเอง
ล่าสุดที่ อ.อู่ทอง ได้มีประชาชนจำนวนมากแห่ต่อแถวเข้าคิวรอซื้อหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือที่ร้านขายยาในตลาดเทศบาลอู่ทอง เป็นจำนวนมาก โดยแถวยาวเกือบ 100 เมตร บางรายมารอก่อนที่ร้านจะเปิด ด้านนาย ทองสุข เหลืองเวชการ เจ้าของร้ายขายยาเหลืองเวชภัณฑ์ เปิดเผยว่าที่ ร้านได้โควต้าหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมาจำนวนหนึ่ง
ส่วนหนึ่งกันไว้ให้ โรงเรียน สถานีอนามัยและบุคลากรทางการแพทย์ และอีกส่วนหนึ่งได้นำออกมาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชนทั่วไป 1คน ต่อ1ชุด ประกอบไปด้วยหน้ากากอนามัยจำนวน 4 อัน เจลล้างมือ จำนวน 1 ขวด ขนาด 60 มล. ในราคาชุดละ 30 บาท และเผยอีกว่า ตั้งแต่เปิดร้านขายยามามากกว่า 30 ปี ก็มีครั้งนี้ที่หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือขาดแคลนเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของผู้ติดเชื้อรายใหม่ รายที่ 59 เป็นเจ้าของร้านอาหารที่อาคารออล ซีซั่นส์ เพลส ย่านถนนวิทยุ มีการแจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ยืนยันไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว โดยมีการชี้แจงพร้อมแนบภาพพาสปอร์ต โดยระบุว่า กลับจากต่างประเทศล่าสุด คือ ประเทศสิงคโปร์ เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 63 จากนั้นก็ไม่ได้เดินทางไปไหนอีก เข้าร้านอาหารวันสุดท้ายคือวันที่ 6 มี.ค. 63 ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีอาการ กระทั่งวันที่ 8 มี.ค. 63 เริ่มมีอาการเล็กน้อย จึงเริ่มกักตัวเองและเข้ารับการรักษาที่รพ.กรุงเทพคริสเตียน ในวันที่ 9 มี.ค. 63 และตรวจพบเชื้อในเย็นวันดังกล่าว
ในเช้าวันต่อมา จึงรีบโทรแจ้งผู้จัดการร้านอาหารให้ทำความสะอาด และกักตัวพนักงานทุกคน จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ป่วยรายนี้ อาจจะติดเชื้อในประเทศ ซึ่งอาคารที่ตั้งอยู่ของร้านอาหาร คืออาคาร CRC Tower สูง 53 ชั้น ในตัวอาคารมีสถานทูตอิตาลีอยู่ชั้น 40 โดยฝ่ายบริหารอาคารโครงการ ออล ซีซั่นส์ เพลส ระบุว่า ทางร้านได้แจ้งทางฝ่ายอาคารและทำการปิดร้านทำความสะอาดทันทีตั้งแต่เมื่อวานนี้ มีการฉีดพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อคุณภาพเดียวกับที่ใช้ในโรงพยาบาล อีกทั้งใช้เครื่องโอโซนติดตั้งฆ่าเชื้อในระบบปรับอากาศของอาคาร นอกจากนี้ยังมีการส่งข้อมูลทางอีเมล์ให้กับบริษัทผู้เช่า รับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแนะนำให้ผู้ที่ไปใช้บริการร้านดังกล่าวในช่วง 14 วัน กักตัวดูอาการอยู่ที่บ้าน ป้องกันการติดเชื้อหรือแพร่ระบาดสู่ผู้อื่น
สำหรับมาตรการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนหน้านี้ฝ่ายอาคารได้มีการดูแลทำความสะอาด และติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ พร้อมป้ายประชาสัมพันธ์กระจายตามจุดต่างๆ กำหนดให้แจ้งฝ่ายอาคารหากพบมีพนักงานป่วย ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม และจนถึงขณะนี้ได้เพิ่มมาตรการกำหนดจุดเข้า-ออก เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิของผู้ที่จะเข้ามาติดต่อภายในอาคาร รวมถึงเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดมากขึ้น
ส่วนกรณีที่มีคนให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยรายนี้เป็นครูสอนพิเศษด้วย อยู่ที่รร.นานาชาติ SISB ทำให้ต้องปิดรร.ฆ่าเชื้อตั้งแต่วันนี้ (12 มี.ค. 63) จนถึงวันที่ 15 มี.ค. 63 ส่วนนร.ที่สัมผัสกับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ได้ให้กักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน ล่าสุด ทางรร.นานาชาติสิงคโปร์ชี้แจงว่า ผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้เป็นบุคลากรของรร. เป็นเพียงอาจารย์รับสอนพิเศษเท่านั้น
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน ว่าล่าสุดแรงงานที่ลักลอบหนีจากด่านกักโรค ทั้ง 80 คน ได้รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่หมดแล้ว ซึ่งวันนี้ มีมาเพิ่มเติม 6 คน จากเดิม 74 คน ซึ่งกระจายตัวอยู่ต่างจังหวัด ทั้งนี้ยังย้ำว่า มีการตรวจสอบย้อนกลับไปถึงบุคคลที่ใกล้ชิดกับแรงงานกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม จนถึงปัจจุบัน ก็สามารถนำเข้าระบบได้ทั้งหมด พร้อมยืนยันว่า ทั้ง 180 คนที่สัตหีบ 80 คนที่มารายงานตัว และ 200 คน ที่บุรีรัมย์ ยังไม่พบไข้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ เพราะยังให้ความร่วมมือทางกฎหมาย แต่หากทำผิดเงื่อนไขก็จะแจ้งความดำเนินคดีในอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนจะเป็นเยี่ยงอย่างหรือไม่หากไม่ดำเนินคดีนั้น นายสาธิตย้ำอีกว่า เราต้องดำเนินคดีอยู่แล้ว หากไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่
ส่วนกรณีที่แรงงานที่ถูกกักกันตัวไลฟ์สดดื่มสุรา จะดำเนินการอย่างไรบ้างนั้น นายสาธิตกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติในการใช้ชีวิตส่วนตัว จะทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา เราเพียงกักกันในพื้นที่จำกัดเพื่อไม่ให้ออกไปสังสรรค์นอกพื้นที่ การที่จะห้ามไลฟ์สดก็คงยาก