การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันที่ 2 ฝ่ายรัฐบาลได้ออกมาชี้แจงในหลายประเด็นหนึ่งในนั้นคือประเด็น อี-คอมเมิร์ซ ล้งจีน ล้งลำไย กล่าวหารัฐบาลไม่สนใจคนข้างล่าง หรือ SME ไม่ส่งเสริมผู้ประกอบการไทย แต่ไปร่วมมืออาลีบาบา โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ชี้แจง ระบุว่า
รัฐบาลให้ความสนใจเศรษฐกิจฐานรากอยู่แล้ว มีมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประกันรายได้เกษตรกร สมาร์ทโซ่ห่วย ซึ่งรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ให้ความสนใจการทำการค้าออนไลน์ ได้จัดหลักสูตรอบรมให้ผู้ประกอบการทำการค้าออนไลน์เพิ่มเติม สนับสนุนการอบรมอี-คอมเมิร์ซ ให้คนรุ่นใหม่ โดยปีที่ผ่านมาได้เดินทางไปชายแดนใต้เพื่ออบรม เพราะเป็นประโยชน์ด้านความมั่นคงนอกเหนือจากเศรษฐกิจ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างส่งเสริมดิจิทัลคอนเทนต์ การทำแอนิเมชั่น และภาพยนต์ในระบบดิจิทัลอีโคโนมี พร้อมแพลตฟอร์มของคนคือ ไทยเทสต์.com โดยเป็นเวทีช่วยผู้ส่งออกไทยที่มีศักยภาพ และให้ทั่วโลกเข้ามาซื้อขายกัน มีนักธุรกิจไทยจดทะเบียนแล้ว 2.3 หมื่นคน
ส่วนประเด็นที่รัฐบาลเพราะต้องการเพิ่มช่องทางการขายสินค้า และบริการของคนไทย ซึ่งได้เซ็น MOU ระหว่างอาลีบาบากับกระทรวงพาณิชย์ ที่มีลูกค้านับพันล้านคน เปิดห้องสินค้าของไทยโดยเฉพาะ หรือ ทีมอล์ นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางการค้า ขายที่อินเดีย เตรียมทำกับอเมซอนของสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และมาเลเซีย หากสินค้าเกษตรแปรรูป และ SME ขายได้ เงินจะไหลสู่เศรษฐกิจฐานราก
ซึ่งในระหว่างชี้แจง ก็มี น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง ขอให้ตอบตรงประเด็นข้อกล่าวหาทั้งประเด็น SME และออนไลน์ในไทยจะประสบปัญหาจากตลาดจีน และอาลีบาบา ที่เข้ามาตีตลาดไทย แต่ประธานสภาฯ วินิจฉัยกรณีนี้ว่า รมว.พาณิชย์ ยกประเด็นคำถามมาตอบ ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจ และขอปิดการประท้วง