นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุริตและประพฤติมิชอบ โดยยอมรับว่า ได้รับการแจ้งจากที่ประชุมวิปของพรรคแล้ว ว่าได้มีมติเสนอชื่อเข้าเป็นกรรมาธิการแทนนายดล เหตระกูล ส.ส.พรรคชาติพัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในโควต้าของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะในกรรมาธิการมีสักส่วนของพรรคพลังประชารัฐเพียง 3 คน ทั้งที่ควรมี 4-5 คนจึงจะเป็นต้องไปขอโควต้าจากพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามา ประกอบกับนายดล ได้ลาออกทำให้สัดส่วนของรัฐบาลว่างลง ยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติไม่ได้เป็นการแย่งที่นั่งของพรรคร่วมรัฐบาล
ยืนยันว่า การทำหน้าที่ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปเพิ่มความขัดแย้งตามที่มีความกังวล แต่เนื่องจากพรรคเห็นว่ามีประสบการณ์ เคยเป็นกรรมาธิการด้านนี้ในวุฒิสภามาก่อน และได้ทำหน้าที่ตรวจสอบการทุริตมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเคยเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จึงมั่นใจว่าจะสามารถเข้าไปช่วยงานของกรรมาธิการให้เป็นประโยขน์ต่อประชาชนได้
ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งธงจะเข้ามาปลดพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากตำแหน่งประธานกรรมาธิการ ตามที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ และนายสิระ เจนจาคะ กำลังผลักดัน ส่วนตัวมองว่าการทำหน้าที่ทั้ง2คน ก็เป็นเรื่องที่ทำอย่างเต็มที่ตามเอกสิทธิ์ที่มี ซึ่งตนก็รับทราบถึงปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในกรรมาธิการ ดังนั้นจึงต้องไปพูดคุยกัน
ส่วนการทำหน้าที่ของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ มองว่าต้องแยกบทบาทส่วนตัวออกจากกัน ซึ่งการทำหน้าที่ในฐานะประธานก็มีกรอบอำนาจหน้าที่ของประธานอยู่แล้ว จะไปทำเกินทำขาดไม่ได้ ดังนั้นเมื่อตนเข้าไปก็จะทำให้กรอบอำนาจของประธานมีความชัดเจนขึ้น ถ้าอันไหนเกิดก็ต้องมาพูดคุยกัน และคิดว่าการทำหน้าที่ระหว่างตนกับพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์จะไม่มีปัญหาอะไรเพราะในอดีตเมื่อปี 2560 ตนเคยฟ้องหมิ่นประมาทกับตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์มาแล้ว จนพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ต้องออกมาขอโทษ หลังจากนั้นก็พูดคุยกันมาอย่างสนิทสนมมาโดยตลอด
แต่ประเด็นสำคัญในการเข้าไปทำหน้าที่ครั้งนี้คือการไม่เห็นด้วยกับการที่ให้ที่ปรึกษาของกรรมาธิการมาร่วมประชุมอยู่ตรงหัวโต๊ะ และมีบทบาทแทีกแซงการทำหน้าที่ของกรรมาธิการ ถือเป็นเรื่องที่ประเพณีปฏิบัติไม่เคยทำกัน และไม่ควรทำ เช่นเดียวกับแต่งตั้งนายวัฒนา เมืองสุข จำเลยคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรมาร่วมเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ แต่ทั้งนี้ต้องขอเข้าไปทำหน้าที่ก่อนเพื่อเน้นแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นหลัก
+ อ่านเพิ่มเติม