“เสรีพิศุทธ์” ตัดสัมพันธ์ “ทักษิณ” ชี้ “อุ๊งอิ๊ง” ไม่มีสติปัญญาบริหารได้ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ แถลงมติพรรคเสรีรวมไทย ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ชี้ อุ๊งอิ๊ง ไม่มีสติปัญญาบริหารได้ เพราะเป็นการบริหารโดยพ่อ พร้อมประกาศตัดสัมพันธ์ 51 ปี กับ นายทักษิณ ลั่นอยู่ร่วมไม่ได้ นักโทษตั้งนายกฯ เอง

 

เสรีพิศุทธ์ ถอนตัวพรรคร่วมฯ ตัดสัมพันธ์ ทักษิณ

 

พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงถอนตัวออกจากการเป็นพรรครวมรัฐบาลว่า ขณะนี้ พรรคเสรีรวมไทย ทำหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว แม้ยังต้องการทำงานให้ประเทศ แต่เมื่อไม่มีโอกาสก็ขอไปทำงานด้านอื่นก็ได้ จึงได้ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีมติ 7 เสียง ต่อ 4 เสียง ให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลมาเป็นอิสระ และทำหน้าที่ฝ่ายค้านตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราต้องการทำงานให้บ้านเมือง แต่เมื่อไม่มีโอกาส ก็ทำงานในฐานะอื่นก็ได้

 

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยอมรับว่า สาเหตุที่ถอนตัวก็น้อยใจ เพราะวันที่ไปประชุมกับพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ได้พูดว่า พรรคเสรีรวมไทยรับใช้เพื่อไทยมาทั้งชีวิตแล้ว เผื่อมีโอกาสร่วมงานกับรัฐบาลบ้าง เพราะตอนนี้ปัญหาในตำรวจเละเทะ ไม่มีใครคิดจะแก้ไข แม้กระทั่งรักษาการนายกรัฐมนตรี บอกว่า งานตำรวจ นายทักษิณ จะดูแลเอง แต่เขาลืมเหรอว่า ตนเคยเป็น ผบ.ตร. มาก่อน นายทักษิณ จะรู้จักตำรวจดีกว่าตนได้อย่างไร

 

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ บอกว่า นายทักษิณ พูดกับตนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่าเป็นหนี้ตน และต้องการชดใช้ แต่ตั้งใครก็ลืมตนทุกที อาจคิดว่า ตนเป็นพรรคเพียงแค่เสียงเดียว รัฐบาลชุดที่แล้วให้ตน 300 ล้านบาท พร้อมตำแหน่งรองนายกฯ ตนยังไม่ไปร่วมรัฐบาล และยอมเป็นฝ่ายค้าน ส่วนรัฐบาลชุดนี้ ตนกับ นายทักษิณ รู้จักกันมา 51 ปี ยังทำกันได้ แล้วจะคบต่อไปทำไม

 

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยังนำข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ที่มีการพูดคุยกับคนที่ทำหน้าที่จัดคิวเข้าพบ นายทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ขณะพักรักษาตัว เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า เข้าพบ นายทักษิณ ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือ 14 พฤศจิกายน 2566 และอีกครั้งในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 โดยทั้ง 2 ครั้ง มีการพูดคุยเรื่องที่ นายทักษิณ ชินวัตร จะไม่เอาตระกูลวงษ์สุวรรณ เข้าร่วมรัฐบาล เพราะนายทักษิณ ไม่พอใจ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นคนปฏิวัติน้องสาว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดย นายทักษิณ เคยพูดกับตน ตอนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ตั้งแต่ต้นปี ว่า ยังไงก็ไม่เอาตระกูลวงษ์วรรณ

 

ตนเป็นนักเรียนนายตำรวจรุ่น 24, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รุ่น 25, นายทักษิณ รุ่น 26 เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ รู้นิสัยใจคอกันกันหมด ช่วงหนึ่ง พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ บอกว่า นายเศรษฐา ไปตั้งนักโทษมาเป็นรัฐมนตรี และปัจจุบัน นักโทษมาตั้งนายกรัฐมนตรีเสียเอง แล้วจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ตอนนี้มีปัญหาวุ่นวายในการตั้งรัฐบาล นางสาวแพทองธาร จะมีสติปัญญาอย่างไรในการบริหารตรงนี้ ไม่มีหรอก เป็นการบริหารงานโดยพ่อทั้งนั้น

 

เสรีพิศุทธ์ ประเมินรัฐบาล อุ๊งอิ๊ง อายุสั้นกว่า เศรษฐา

 

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เชื่อว่า รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ไม่ถึงปี อายุรัฐบาลสั้นกว่ารัฐบาลเศรษฐาเสียอีก รวมถึง นางสาวแพทองธาร ก็จะมีเรื่องร้องเรียนเยอะ เพราะมีคนเตรียมร้องเรียนมากมาย แต่พรรคเสรีรวมไทยคงไม่ดำเนินการใด ๆ เพราะเห็นเป็นลูกหลาน ส่วน พล.อ.ประวิตร กับ นายทักษิณ จากนี้สู้กันเต็มที่ แต่บิ๊กป้อมน่าจะสู้ไม่ได้ ส่วนเรื่องอื่นเปิดเผยไม่ได้ ขอให้รอเป็นไฮไลต์ในครั้งต่อไป หลังจากนี้หากมีการติดต่อมาเทียบเชิญให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ก็จะไม่รับ

 

สำหรับ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ถือเป็นนายตำรวจมือปราบชื่อดัง ฉายา วีรบุรุษนาแก เคยเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อปี 2550 ได้รับการแต่งตั้งโดย คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) หลังรัฐบาลนายทักษิณถูกรัฐประหาร หลังรัฐประหารปี 2557 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาล คสช. อย่างหนัก จนฝ่ายกฎหมาย คสช. ต้องแจ้งความกองปราบปราม ข้อหากระทำการที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หลังเลือกตั้งปี 2562 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกฯ โดย พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ลุกขึ้นอภิปรายคุณสมบัติของนายกฯ กล่าวหามีการโกงการเลือกตั้งจนได้เป็นรัฐบาล จนประท้วงกันวุ่น ทำให้ พลเอกประยุทธ์ ต้องตอบโต้ ประกาศตัดรุ่นพี่รุ่นน้อง และประธานสภาฯ เชิญ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ออกจากห้อง

 

ต่อมาในปี 2566 หลังรัฐสภาฯ ไม่เห็นชอบชื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตพรรคก้าวไกล จนต่อมาก็เป็น พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ที่มีเสียง สส. 1 เสียง ออกมาซัดพรรคก้าวไกลให้ถอนตัว เปิดทางให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล พร้อมบอกว่า ด้อมส้มเป็นแค่เด็กเมื่อวานซืน สมองยังไม่มี จนสุดท้าย พรรคเพื่อไทย รวมเสียงจนจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จากนั้นช่วงหนึ่งมีกระแสข่าวว่า นายทักษิณ จะให้ตำแหน่งเก้าอี้ใดเก้าอี้หนึ่งใน ครม. แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เก้าอี้

 

อดิศร ง้อ เสรีพิศุทธ์ กลับพรรคร่วมฯ

 

ด้าน นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย บอกว่า ส่วนตัวแล้วเคารพ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เป็นอย่างยิ่ง แต่กรณีที่จะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ทราบว่าเป็นเหตุผลกลใด ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน อยากเป็นรองนายกฯ หรือเปล่า แต่จะเป็นได้อย่างไร มีเสียงเดียว การตัดสินใจทางการเมืองเป็นเรื่องของแต่ละพรรค แต่อยากจะบอกกับ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ว่า ลองทบทวนดู อาจจะพูดแรงไป ทำไมมาโกรธกันในวันสองวัน อายุมากแล้วอย่าใจน้อย

 

ปชป.โต้ ก่อแก้ว พาดพิง 3 ผู้ใหญ่ในพรรค

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากพรรคเพื่อไทยมาเชิญไปร่วมรัฐบาล บอกว่า ทำงานร่วมกันได้ แต่ยังไม่ทันได้ร่วมงาน เริ่มมีปัญหาวิวาทะกันแล้ว เมื่อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์พาดพิงผู้ใหญ่ในประชาธิปัตย์ว่า การได้ผู้บริหารชุดนี้มาร่วมงานถือเป็นเรื่องดี ส่วนบุคคลที่เป็นผู้บริหารเก่าที่เคยนำพาพรรคประชาธิปัตย์ไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำ วันนี้ได้รับผลกรรมแล้ว กลุ่มเก่าพรรคประชาธิปัตย์อย่าง นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นไม้แก่ที่ดัดยาก ดัดอย่างไรก็ไม่ได้ ถ้าทำอะไรที่ขัดกับผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันอาจถูกขับออกจากพรรคได้

 

ทำให้ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาพาเหรดตอบโต้ อย่าง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า จริง ๆ แล้ว ตอนสัมภาษณ์แรก ๆ นายก่อแก้ว ก็พูดดี ระบุว่า เป็นยุคพลัดใบของประชาธิปัตย์ แต่การพาดพิงบุคคลในพรรคไม่ถูกต้อง การจะบอกว่ามีมารยาทในการร่วมรัฐบาลกัน คือ ต้องไม่วิจารณ์กัน เพราะทั้ง 3 คน เป็นคนที่พรรคให้ความเคารพ และที่บอกว่าเป็นไม้แก่ดัดยากนั้น จริง ๆ ทั้ง 3 คน เป็นไม้บรรทัดเหล็ก ที่มีความเที่ยงตรงในการทำงานอยู่ตลอดเวลา จึงอยากฝากบอก นายก่อแก้ว ว่า ต้องรู้จักมารยาท ต้องศึกษาบุคคลเหล่านั้นให้ดีก่อน ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์

 

ชัยชนะ ยันปม ก่อแก้ว ไม่กระทบการทำงาน

 

นายชัยชนะ ยืนยันปัญหาดังกล่าว ไม่กระทบต่อทำงานร่วมกันของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ และต้องยอมรับว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีหลากหลายความเห็น เมื่อมีมติออกมาเช่นไร เราก็ยึดมติของพรรคเป็นหลัก หากยังยึดติดอยู่กับความขัดแย้งในอดีต ประเทศก็จะเดินหน้าไม่ได้ วันนี้หากตนอยู่ร่วมรัฐบาลแล้ว หากรัฐบาลทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็ต้องชี้แนะหรือแนะนำ ไม่ใช่อยู่ร่วมรัฐบาลแล้ว จะตาบอด หูหนวก ฟังอะไรไม่ได้ สิ่งไหนผิดก็ต้องผิด สิ่งไหนถูกก็ต้องถูก

 

ส่วนการประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงเย็นวันนี้ (29 ส.ค.) หากมติการร่วมรัฐบาลผ่าน ก็จะเสนอพิจารณาบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป

 

ราเมศ ย้อน ก่อแก้ว ต้องบอกเจ้านายตัวเอง

 

อีกคนที่ออกมาตอบโต้ นายก่อแก้ว ก็คือ นายราเมศ รัตนะเชวง อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตเลขานุการประธานรัฐสภา ระบุว่า นายก่อแก้ว คงใช้สมองที่คิดกลับด้าน เพราะ นายชวน เป็นนักการเมืองมาตลอดชีวิต คิด ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่มีความด่างพร้อย ไม่ทุจริตคิดโกงบ้านเมือง ทำงานยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต

 

ส่วนการเข้าร่วมรัฐบาล ต้องรอดูมติช่วงเย็นวันนี้ แต่มีเหตุผลที่กรรมการบริหารพรรค และ สส. ต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณา คือ การเมืองของระบบทักษิณ ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง ปัจจุบันยังมีคดีที่ นายทักษิณ ฟ้อง นายชวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ยากจะถูกลบเลือนไปด้วยกาลเวลา เพราะไม่ใช่ความขัดแย้งกันในเรื่องส่วนตัว แต่ขัดแย้งกับความไม่ถูกต้อง พรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคเพื่อไทย จึงเหมือนน้ำกับน้ำมัน สุดท้ายมติจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องรอดู