วันที่ 5 ก.ย. 62 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ลงพื้นที่มายังบ้านของนางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ นาง ‘มึนอ’ ภรรยาของนาย ‘บิลลี่’ ใน ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อให้กำลังใจครอบครัว โดยเฉพาะภรรยาที่ต้องดูแลลูกๆ 5 คน ด้วยตัวเองเพียงลำพัง
รองอธิบดี กล่าวกับนางมึนอ เพื่อให้ความมั่นใจว่า ตนเองจะดูแลอย่างเต็มที่ ยืนยันจะทำคดีตรงไปตรงมา ไม่ช่วยเหลือคนผิดอย่างแน่นอน ที่ผ่านมา เห็นว่าดีเอสไอทุ่มเท ทำเต็มที่จนเจอพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ ได้กำชับในการส่งคนมาดู ซึ่งขณะนี้มึนอ อยู่ในโครงการคุ้มครองพยานของดีเอสไอ รวมถึงมารดาของบิลลี่ นอกจากนี้ยังเร่งติดตามการเยียวยาให้กับครอบครัว โดยประสานให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ เข้ามาดำเนินการ คาดว่าไม่เกิน 18 ก.ย. นี้ ทางกรมจะสามารถอนุมัติเงินมาให้ได้
ด้านนางมึนอ กล่าวกับรองอธิบดีดีเอสไอว่า ตนเองกังวลใจ และกลัวว่าจะมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซงคดี ทำให้ทำงานยาก ไม่สะดวก ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานโดยสะดวกปลอดภัย ก่อนที่นางมึนอจะกล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าบิลลี่เสียชีวิตแล้ว
ตนเองเชื่อว่า วัตถุพยานที่พบ ซึ่งผบการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ตรงกับสารพันธุกรรมกับมารดาของบิลลี่ ตนเองก็เชื่อ เพราะญาติพี่น้องไม่มีใครหายไปไหน มีแต่บิลลี่ที่หายไป และมั่นใจในการทำงานของดีเอสไอ ส่วนคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย
นอกจากนี้ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า พยานหลักฐานอื่นๆ ทำเต็มที่ และยังมีคณะทำงานที่ลงมาทำเต็มที่ ใช้ระยะเวลาสักช่วง ส่วนกระดูกที่พบเพิ่ม 8 ชิ้นก็ต้องใช้ระยะเวลา และการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนจุดที่พบถัง ต้องบอกว่า ดีเอสไอเข้ามาทำงานหลายปี ซึ่งก็มีแหล่งข่าว และหลักภูมิศาสตร์ และพฤติกรรมศาสตร์ตามหลักเอฟบีไอมาใช้ประกอบ
ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่า จุดดังกล่าวเป็นจุดลอยอังคาร ทางนางมึนอ ยืนยันว่า ไม่เคยมี เพราะไม่ใช่วิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง เพราะมีแค่เผา หรือ ฝัง ไม่มีการเก็บกระดูก หรือลอยอังคาร
สำหรับเบาะแสที่มี ยอมรับว่ามีข้อมูลกลุ่มบุคคลบางส่วนไปแล้ว และขอยังไม่ตอบถึงจำนวนตัวเลขผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยหลังจากนี้ ดีเอสไอจะลงพื่นที่บริเวณสะพานแขวนแก่งกระจาน ซึ่งเป็นจุดที่พบถังน้ำมัน และชิ้นส่วนกะโหลกมนุษย์ ที่มีสารพันธุกรรมตรงกับแม่ของบิลลี่
+ อ่านเพิ่มเติม