วันที่ 20 ส.ค. 62 นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องในความผิดฐาน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490
โดยอัยการยื่นฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 จำเลยกระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพักเลขที่ 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งนายเปรมชัยจำเลยได้รับการประกันตัวชั้นพิจารณา 200,000 บาทโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ
ซึ่งคดีนี้ ในชั้นสอบคำให้การจำเลย เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2561 นายเปรมชัยเคยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา นัดเริ่มสืบพยานโจทก์ นายเปรมชัยจำเลย ได้แถลงให้การคำรับสารภาพ พร้อมยื่นคำร้องประกอบต่อศาลเพื่อพิจารณา
ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจประวัติครอบครัว การศึกษา การทำงาน และอื่นๆ ของจำเลย และรายงานให้ศาลทราบภายใน 30 วันเพื่อประกอบการพิจารณา
โดยก่อนฟังคำพิพากษานายเปรมชัยมอบอำนาจให้ทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ลงโทษสถานเบา หรือรอลงอาญา โดยระบุว่า 1. จำเลยจะขออุปสมบท (บวช) ที่สัดบวรนิเวศหรือวัดอื่นเป็นเวลา 15 วันเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 2. จำเลยจะบริจาคเงินส่วนตัว 3 ล้านบาทเพื่อเป็นการสาธารณประโยชน์ และ 3. จำเลยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืนอีกตลอดชีวิต
ขณะที่ศาลแจ้งให้ฝ่ายจำเลยทราบว่า อัยการโจทก์ได้ขอแก้ไขคำฟ้องโดยระบุเพิ่มเติมว่า ในการครอบครองยังมีกระสุนปืนไรเฟิลิอีกจำนวน 3 นัด ซึ่งสอบถามฝ่ายจำเลยแล้วก็ได้ตรวจสอบกับรายงานการตรวจพิสูจน์แล้วไม่คัดค้าน โดยจำเลยยังคงยืนยันให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวซึ่งผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษจำคุก 1 ปี ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7 , 72 วรรคหนึ่ง ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลย ยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดีในศาลจังหวัดทองผาภูมิและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พฤติการณ์จึงไม่รอการลงโทษ
ทั้งนี้เมื่อมีคำพิพากษาแล้ว ศาลก็ได้อธิบายให้ นายเปรมชัยฟังว่าคำร้องที่ นายเปรมชัย ยื่นมาในวันนี้ระบุจะปฏิบัติ 3 ข้อนั้นหากปฏิบัติได้ก็ขอให้ทำต่อไปซึ่งเป็นการทำความดี แต่ในส่วนของการรอการลงโทษนั้นเนื่องจาก นายเปรมชัย ยังมีคดีอาญาที่ศาลพิพากษาจำคุกอยู่ 2 คดีจึงไม่อาจที่จะรอการลงโทษได้
โดยภายหลังศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกโดยไม่รอลงอาญานายเปรมชัยเป็นเวลา 6 เดือนแล้วทางทนายความก็ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี
+ อ่านเพิ่มเติม