รวบหนุ่มหลอกซื้อดาวน์รถ จยย. ผ่านเฟซบุ๊ก เอาไปจำนำต่อ สารภาพทำมาแล้วกว่า 100 คัน
logo ข่าวอัพเดท

รวบหนุ่มหลอกซื้อดาวน์รถ จยย. ผ่านเฟซบุ๊ก เอาไปจำนำต่อ สารภาพทำมาแล้วกว่า 100 คัน

ข่าวอัพเดท : วันที่ 11 ส.ค. 62 พ.ต.ต.ฐิติวัสฐ์ เเซมเขียว สว.กก.5 บก. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนค ดาวน์รถจักรยานยนต์,ดาวน์รถ,หลอกดาวน์รถ,อภิสิทธิ์ บุตรทะยัก

3,427 ครั้ง
|
11 ส.ค. 2562
วันที่ 11 ส.ค. 62 พ.ต.ต.ฐิติวัสฐ์ เเซมเขียว สว.กก.5 บก. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ร่วมกันจับกุมตัว นายอภิสิทธิ์ บุตรทะยัก อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ 179/1/2561 ลงวันที่ 15 ส.ค. 61 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ‘ร่วมกันฉ้อโกง’ 
 
พฤติการณ์คือ ก่อนการจับกุมเมื่อประมาณเดือน เม.ย. 61 ผู้เสียหายได้ประกาศขายดาวน์รถจักรยานยนต์ของตนเองทางหน้าเฟซบุ๊ก เนื่องจากเดือดร้อนไม่มีเงินส่งค่างวดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ต่อมาได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘ชาบ้านดอน’ ทักมาว่าต้องการซื้อดาวน์รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจากผู้เสียหายโดยตกลงนัดซื้อขายรถกันที่ห้างดังแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม 
 
ต่อมาทราบชื่อผู้ซื้อ คือนายอภิสิทธิ์ บุตรทะยัก ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘ชาบ้านดอน’ หลังจากซื้อขายกันเรียบร้อย นายอภิสิทธิ์ รับปากว่าจะไปเปลี่ยนสัญญาเป็นชื่อตนเองให้เรียบร้อย และจะส่งค่างวดต่อไปจนครบสัญญา ปรากฏว่าหลังจากนั้นประมาณ 5 เดือน บริษัทไฟแนนซ์ที่เช่าซื้อรถจักรยานยนต์โทรมาทวงค่างวดผ่อนรถ แจ้งว่าไม่ส่งค่างวดมา 5 เดือนแล้ว จะฟ้องร้องตามกฎหมายหากไม่นำรถมาคืนหรือจ่ายค่าเช่าซื้อให้ครบ 
 
ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อไปหานายอภิสิทธิ์ฯ ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ติดต่อไปทางเฟซบุ๊กก็ถูกบล็อกเฟสไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน จนกระทั่งศาลอนุมัติหมายจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมือง นครปฐม ติดตามจับกุมตัวมาได้ 
 
สอบถามนายอภิสิทธิ์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเองได้หลอกซื้อดาวน์รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจากผู้เสียหายจริง โดยไม่ได้มีเจตนาซื้อมาใช้เอง ตนเองเห็นเฟซบุ๊กมีรับจำนำรถหลายแห่ง จึงได้ติดต่อเฟซรับจำนำรถว่า ต้องการจำนำรถคันดังกล่าวอีกทอดหนึ่ง เมื่อตกลงซื้อขายโดยทางเฟสรับจำนำรถจะมารับรถจากตนเองที่ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยตนเองจะได้กำไรจากการหลอกซื้อดาวน์รถมาจำนำต่ออีกทอดหนึ่งประมาณคันละ 5000 บาท เงินที่ได้ก็นำมาเที่ยวเตร่ กับเพื่อนๆ โดยตั้งแต่ 2560 ตนเองทำแบบนี้มาประมาณ เกือบ 100 คันซึ่งผู้เสียหายมีทั่วไปทั้งในจังหวัดนครปฐมและต่างจังหวัด ทราบว่ามีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความอีกหลายราย
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง