กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรวบจับกุมตัว นายปรีชา หรือหนู ไทยโสภา อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสระแก้วที่ 1639/2546 ลง 8 ธันวาคม 2546 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” (หลบหนีคดีมา 18 ปีกว่า) ผู้ตาย นายสมจิตร แก้วมงคล อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลวังสมบูรณ์ อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว
ก่อนเกิดเหตุ นายปรีชา ไทยโสภา (ผู้ต้องหา) , นายสมหมาย ไทยโสภา (ถูกจับกุมแล้ว) และนายสมศักดิ์ เสรีไตรรัตน์ (ถูกจับกุมแล้ว) ได้ร่วมกันปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลวังสมบูรณ์ อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่นั้นเป็นลูกหนี้ตามโครงการแก้ปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้ตามโครงการดังกล่าว ชาวบ้านจะยืมเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปใช้หนี้ตามโครงการ โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะคิดดอกเบี้ยในอัตราสูง และมักข่มขู่ชาวบ้านที่ไม่มีเงินชำระหนี้ เป็นเหตุให้ นายสมจิตร แก้วมงคล (ผู้ตาย) ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ไม่พอใจ จึงพยายามเป็นตัวแทนชาวบ้าน เข้าไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อยู่หลายครั้ง
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2544 เวลาประมาณ 21.00 น. นายสมจิตรฯ (ผู้ตาย) ได้ไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่บริเวณหน้าสำนักงานบริษัท ส.บุญเหลือ หมู่ 3 ตำบลวังสมบูรณ์ อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว แต่เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ทำให้นายปรีชาฯ (ผู้ต้องหา) ไม่พอใจ จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซอง เบอร์ 12 ที่เตรียมมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด และยิงใส่นายสมจิตรฯ อีก 1 นัด เป็นเหตุให้นายสมจิตรฯ ถึงแก่ความตาย จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จึงหลบหนีไป ต่อมา นายสมหมายฯ และ นายสมศักดิ์ฯ ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนายปรีชาฯ ยังคงหลบหนีคดีอยู่เรื่อยมา
จากการสืบสวนติดตามผู้ต้องหารายนี้ทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมรถ และทำไร่อ้อย โดยพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบนายปรีชาฯ ผู้ต้องหา กำลังยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับให้นายปรีชาฯ ดูและอ่านจนเข้าใจดีแล้ว นายปรีชาฯ รับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวนี้จริงและไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามหมายจับดังกล่าวนี้มาก่อน จึงจับกุมตัวและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังสมบูรณ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม